
ในการเลือกตั้ง ส.ส. วันที่ 24 มี.ค. 2562 อีกหนึ่งพรรคการเมืองที่ให้ความสนใจอย่างกว้างขวาง คือ พรรคอนาคตใหม่
ที่มีนักธุรกิจหนุ่มทายาทไทยซัมมิทกรุ๊ป “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ชูนโยบาย “ไทยสองเท่า ไทยเท่าเทียม” สร้างรัฐสวัสดิการถ้วนหน้า ทลายเศรษฐกิจผูกขาด ปฏิรูปกองทัพ ยุติระบบราชการรวมศูนย์ และสารพัดนโยบายที่เข้าถึงกลุ่มคนรุ่นใหม่
โดยผู้สมัคร ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อ ประกอบด้วยบุคคลจากหลากหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็น ปิยบุตร แสงกนกกุล อดีตอาจารย์คณะนิติศาสตร์ ม.ธรรมศาสตร์, วรรณวิภา ไม้สน นักเคลื่อนไหวต่อสู้ประเด็นสิทธิแรงงาน กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ นักวิชาการด้านการศึกษา, พรรณิการ์ วานิช อดีตสื่อมวลชน ฯลฯ
โดยพรรคอนาคตใหม่ส่ง ส.ส. แบบแบ่งเขตครบทั้ง 350 เขต และ ส.ส. บัญชีรายชื่อ 124 คน แม้การเลือกตั้งครั้งนี้จะมีแต่นักการเมืองหน้าใหม่และไม่เคยมีประส แต่ด้วยแรงสนับสนุนจากคนรุ่นใหม่ จึงเป็นที่คาดหมายกันว่าน่าจะมีโอกาสได้จำนวนที่นั่ง ส.ส. ในสภา มากพอสมควร

“สาครออนไลน์” สัมภาษณ์ “สมัคร ป้องวงษ์” ผู้สมัคร ส.ส. สมุทรสาคร เขต 2 ปัจจุบันอายุ 61 ปี เคยเป็นหัวหน้าไปรษณีย์ไทรโยค จ.กาญจนบุรี, ไปรษณีย์ตลาดเก้าแสน จ.สมุทรสาคร เกษียณอายุราชการที่ไปรษณีย์กระทุ่มล้ม จ.นครปฐม เมื่อปีที่ผ่านมา เคยเป็นประธานสหภาพแรงงาน บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ภูมิภาค 7 จบการศึกษาระดับปริญญาตรี และปริญญาโท สาขารัฐศาสตร์การปกครอง จากมหาวิทยาลัยมหามกุฎราชวิทยาลัย
สมัครเล่าว่า ตนเกิดที่ จ.อุบลราชธานี แต่ย้ายมาตั้งรกรากที่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ตั้งแต่ปี 2512 จึงสัมผัสวัฒนธรรมและความเป็นอยู่ของคนในท้องถิ่นนี้โดยตรง ทำงานไปรษณีย์ตั้งแต่ปี 2527 เริ่มต้นเป็นเจ้าหน้าที่นำจ่าย 6 ปี ก่อนสอบเลื่อนเปลี่ยนระดับเป็นนายไปรษณีย์ เข้าบรรจุเมื่อปี 2534 ที่ไปรษณีย์อ้อมใหญ่ จ.นครปฐม จากการที่อยู่กระทุ่มแบนมาเป็นเวลา 50 ปี และด้วยอาชีพนายไปรษณีย์ ยิ่งทำให้ได้คลุกคลีและรับรู้สารทุกข์สุขดิบของประชาชน

เข้าสู่สนามการเมือง ด้วยความที่อดีตเป็นประธานสหภาพแรงงาน ที่คลุกคลีอยู่กับระบบการเมือง การเรียกร้องและปกป้องสิทธิ รวมถึงเหตุบ้านการเมืองทำให้เรียนรู้และชอบในสายนี้ หลังจากเกษียณมีคนมาติดต่อทาบทามหลายพรรค แต่สมัครพิจารณาเลือกอยู่กับพรรคอนาคตใหม่ เพราะด้วยนโยบายและอุดมการณ์ที่ตรงใจ เชื่อมั่นว่าหากทำได้ตามนั้น จะสามารถเปลี่ยนชีวิตของประชาชนทั้งประเทศได้
โดยปัญหาที่สมัครได้ประสบตั้งแต่เข้ามาอยู่ที่กระทุ่มแบน นอกจากเรื่องของการทำมาหากินประกอบอาชีพ ก็มีเรื่องของปัญหามลพิษไม่ว่าจะเป็นทางน้ำหรืออากาศ ที่เป็นสิ่งเลวร้ายสำหรับคนในท้องถิ่น สมุทรสาครเคยเป็นแหล่งทรัพยากรที่มีความอุดมสมบูรณ์ แต่ในภายหลังเปลี่ยนไปเพราะถูกทำลายไปเยอะ ความเป็นอยู่ของประชาชนจึงได้รับผลกระทบ เกิดปัญหาสุขภาพตามมา

“ปัญหาหลักคือการบังคับใช้กฎหมายไม่เต็มร้อย ผู้มีอำนาจในการบริหารปกครองไม่พยายามที่จะใช้บังคับกฎหมายเหล่านี้ เลยทำให้ผู้ประกอบการมีการปล่อยมลพิษออกมาเป็นจำนวนมาก ซึ่งหากได้มีโอกาสได้รับใช้พี่น้องประชาชน นอกจากเรื่องนโยบายของพรรค ก็จะเข้ามาขันน็อตให้การบังคับใช้กฎหมายตรงนี้ชัดเจน” สมัคร กล่าว
เรื่องปัญหาเศรษฐกิจ ย้อนไปเมื่อ 30-40 ปีก่อน ชาวสมุทรสาครมีอาชีพประมงและเกษตรกรเป็นหลัก แล้วเริ่มเปลี่ยนแปลงเพราะมีอุตสาหกรรมเข้ามา ทำให้อาชีพของคนในพื้นถิ่นมีทั้งการประมง การเกษตร และผู้ใช้แรงงาน ซึ่งปัญหาประมงนั้น สมัครมองว่าที่ถูกกีดกันจากสหภาพยุโรป เพราะระบอบการเมืองการปกครองของไทยไม่ชัดเจน ไม่ได้เป็นประชาธิปไตยร้อยเปอร์เซ็นต์ จึงทำให้ประเทศคู่ค้าซึ่งเป็นประเทศที่เป็นประชาธิปไตยไม่ยอมรับ
ส่วนปัญหาด้านแรงงาน การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำมีทั้งข้อดีและข้อเสีย คิดว่าได้ค่าตอบแทนเยอะขึ้นทำให้ผู้ใช้แรงงานมีความสุข แต่สิ่งที่เลวร้ายตามมา คือ ค่าตอบแทนสูงขึ้น ค่าใช้จ่ายก็จะสูงขึ้นมาอีกเป็นทวีคูณ สมัครเห็นว่าหากมีการควบคุมราคาสินค้า ตรวจสอบสินค้าแต่ละประเภทมีต้นทุนที่แท้จริงเท่าไร มีอะไรที่เป็นองค์ประกอบชัดเจน ราคาก็จะไม่สูงและเป็นธรรมต่อผู้บริโภค ซึ่งส่วนต่างราคาดังกล่าวทำให้ไม่จำเป็นต้องขึ้นค่าแรงสูงมากก็ได้ เพราะค่าใช้จ่ายลดลงไป
“ทุกวันนี้กฎหมายที่ควบคุมเรื่องเหล่านี้ ไปเอื้อให้กับทุนรายใหญ่ผูกขาดครอบงำประเทศ ซึ่งทางพรรคมีอุดมการณ์ที่จะทลายระบบผูกขาดให้ได้ หากทลายตรงนี้ไม่ได้ ความเสมอภาคยังไงก็ไม่เกิด เพราะว่าผลประโยชน์เกิดกับกลุ่มทุนซึ่งมีไม่กี่ราย ถ้าระบบผูกขาดไม่มี ก็จะช่วยทุนรายเล็กไปจนถึงฐานราก คิดว่าคนไทยความรู้ความสามารถไม่แพ้ใคร แต่ไม่ค่อยได้รับโอกาสในการที่จะทำตัวเป็นเถ้าแก่ขึ้นมา”


ในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้ สมัครบอกว่า ตนเป็นผู้สมัคร ส.ส. เข้ามาด้วยต้นทุนต่ำ ไม่ลงทุนทั้งทรัพย์ ไม่ได้ซื้อหัวคะแนน ไม่มีผู้จัดตั้ง ไม่มีอำนาจหรืออิทธิพลหนุนหลัง เน้นลงพื้นที่พบปะประชาชน นำเสนอนโยบายของพรรคอนาคตใหม่ด้วยตัวเอง แนะนำให้พี่น้องชาวสมุทรสาครรู้ว่านโยบายและบุคคลากรของพรรคฯ สามารถที่จะนำพาไปสู่จุดหมายปลายทางเดียวกัน เพราะที่ผ่านมาประเทศย่ำอยู่กับที่
“พรรคอนาคตใหม่ไม่ได้เป็นของคนใดคนหนึ่ง เป็นพรรคของมหาชน ประชาชนเป็นเจ้าของ ส่วน “ประชาชน คือ เจ้านาย” หมายถึงทุกคนเป็นเจ้านายหมด ผมเข้ามาอาสารับใช้ตรงนี้ ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือนหรือสวัสดิการ ประชาชนเป็นคนจ่ายให้ผม ไม่ใช่นายทุน บริษัทห้างร้าน ทุนข้ามชาติหรือผู้มีอิทธิพล มาเป็นเจ้านายคอยสั่งการให้ตนต้องเดินซ้าย-ขวา ไปโน่นมานี่”



สมัคร กล่าวทิ้งท้ายว่า ตนมีความตั้งใจโดยศักยภาพทั้งความรู้ความสามารถ ประสบการณ์ในด้านการงาน มีพร้อมเปี่ยม ถึงแม้ว่าจะเกษียณอายุไปแล้ว แต่ศักยภาพเหล่านั้นยังอยู่ ตนเรียนรู้มาและอยากจะใช้ตรงนี้เพื่อพัฒนาชาติ และให้เป็นทางเลือกกับพี่น้องประชาชน เขต 2 กระทุ่มแบน จึงอยากขอความอนุเคราะห์ ขอความเมตตา ขอฉันทามติ และขอความไว้วางใจว่าสามารถที่จะเป็นผู้แทนให้ประชาชนในเขต 2 กระทุ่มแบนได้
– กิตติกร นาคทอง –