
เทศบาลตำบลนาดี ร่วมกับมูลนิธิบูรณะนิเวศ โดยการสนับสนุนของ UN ESCAP และ UN-Habitat องค์การสหประชาชาติ ลงนามความร่วมมือ “โครงการเมืองนำร่องฯ เพื่อการจัดการสิ่งแวดล้อมเมืองยั่งยืน” เป็น 1 ใน 5 เมือง ในเอเชียและแปซิฟิกที่นำร่องของโครงการฯ
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 27 มี.ค. ที่อาคารสหประชาชาติ ถ.ราชดำเนินนอก กรุงเทพฯ เทศบาลตำบลนาดี และมูลนิธิบูรณะนิเวศ ภายใต้การสนับสนุนของคณะกรรมการเศรษฐกิจและสังคมของเอเชียและแปซิฟิกแห่งสหประชาชาติ หรือ UN ESCAP และโครงการตั้งถิ่นฐานมนุษย์แห่งสหประชาชาติ หรือ UN-Habitat ได้มีพิธีการลงนามจดหมายบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (Exchange of Letters) “โครงการเมืองนำร่องเทศบาลตำบลนาดี เพื่อการจัดการสิ่งแวดล้อมเมืองอย่างยั่งยืน”
โดย พ.จ.อ.อัษฎางค์ วิเศษวงศ์ษา ปลัดเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่นายกเทศมนตรีตำบลนาดี ได้ลงนามและแลกเปลี่ยนจดหมายบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ MR.ADNAN ALINI ผู้อำนวยการฝ่ายการจัดการโครงการและยุทธศาสตร์ UN ESCAP ผู้แทนสหประชาชาติ มีนายธีรพัฒน์ คัชมาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นางเพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณนิเวศ MR.CURT GARRIGAN ผู้อำนวยการฝ่ายพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน UN ESCAP และ MS.ANA MORENO ผู้อำนวยการ UN-Habitat ประจำกรุงเทพ ร่วมเป็นสักขีพยาน

เทศบาลตำบลนาดี เป็น 1 ใน 84 เมืองทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกที่ได้สมัครเข้าร่วม “โครงการการบูรณาการเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนสู่การปฏิบัติระดับท้องถิ่นเพื่อการสนับสนุนการดำเนินการวาระ 2030 ในเอเชียและแปซิฟิก” (Integrating the Sustainable Development Goals (SDGs) into local action in support of the implementation of the 2030 Agenda in Asia and the Pacific) ภายใต้การสนับสนุนของ UN ESCAP และ UN-Habitat
โครงการเมืองนำร่องฯ นี้เกิดขึ้นเพื่อขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนให้บรรลุผลตามเป้าหมายของวาระ 2030 เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยมุ่งเน้นสนับสนุนให้เกิดการนำไปปฏิบัติในท้องถิ่น ผ่านมุมมองด้านสิ่งแวดล้อม จากการคัดเลือกอย่างเข้มข้น เทศบาลตำบลนาดีได้รับเลือกเป็น 1 ใน 5 เมืองในเอเชียและแปซิฟิก ในการเป็นเมืองนำร่องของโครงการฯ

การลงนามจดหมายบันทึกข้อตกลงความร่วมมือครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งความคืบหน้าในการดำเนินการเพื่อฟื้นฟูมลพิษในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร นับเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาร่วมกันของคนในพื้นที่ โดยได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคประชาชน ซึ่งเป็นแนวทางที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาครได้ให้ความสำคัญ กล่าวคือ การทำงานพื้นที่ต้องเน้นการทำงานอย่างมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วน ทั้งการตั้งเป้าหมายในภาพรวมและพร้อมเดินหน้าไปด้วยกันเพื่อขับเคลื่อนให้ประสบความสำเร็จ
ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม เป็นหนึ่งในนโยบายที่รัฐบาลให้ความสำคัญและบรรจุอยู่ในแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เพื่อให้การทำงานสามารถขับเคลื่อนไปอย่างประสบความสำเร็จ การลงนามในครั้งนี้ จึงเป็นการส่งสัญญาณที่ดีว่า จังหวัดสมุทรสาครกำลังให้ความสำคัญต่อปัญหาสิ่งแวดล้อม และพร้อมจะร่วมมือกันขับเคลื่อนให้เกิดผลในทางปฏิบัติ เปลี่ยนจังหวัดสมุทรสาครให้เป็นเมืองอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ สังคมเป็นสุข ดังวิสัยทัศน์ของจังหวัด ทั้งนี้ เทศบาลตำบลนาดีได้วางแผนงานการปรับปรุงแก้ไขในเรื่องน้ำเสียของคลองสี่วาพาสวัสดิ์ ให้กลับมาใช้ประโยชน์ได้ และจะต้องไม่มีเรื่องมลภาวะ

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ