ประมงจังหวัดสมุทรสาคร นำทุกภาคส่วนร่วม “ลงแขก ลงคลอง” กวาดล้างปลาหมอคางดำ คลองภาษีเจริญ และคลองหนองนกไข่ พื้นที่ อ.กระทุ่มแบน ได้จำนวนมากกว่า 10 ตัน
วานนี้ (8 ก.ย.) นายเผดิม รอดอินทร์ ประมงจังหวัดสมุทรสาคร นำพันธมิตรทุกภาคส่วน ทั้ง FC สมุทรสาคร ตำรวจน้ำ ทหารจากกรมทหารสื่อสารที่ 1 ค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน ชาวประมงเรืออวนรุน ผู้แทนภาครัฐ ภาคเอกชน ผู้นำท้องที่ และประชาชน ร่วมกันกวาดล้างปลาหมอคางดำในพื้นที่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร หลังชาวบ้านแจ้งเบาะแส โดยปฏิบัติการครั้งนี้ได้ลงพื้นที่คลองภาษีเจริญ กับคลองหนองนกไข่ ซึ่งในคลองภาษีเจริญได้ใช้เรืออวนรุน 15 ลำ มาจับปลาหมอคางดำตลอดคลองในพื้นที่ ใช้เวลา 4 วัน และเมื่อจับปลาได้แล้วก็จะส่งขายให้กับแพปลาที่มารอรับซื้อถึงริมคลองภาษีเจริญ ในราคา กก.ละ 13 บาท เพื่อนำส่งให้กับโรงงานปลาป่นใน จ.สมุทรสาคร ส่วนในคลองหนองนกไข่ ใช้วิธีการลงอวนล้อมจับโดยทหารกับตำรวจน้ำ ขณะที่ผลลัพธ์ที่ออกมานั้นปรากฏว่า ในคลองภาษีเจริญสามารถจับปลาหมอคางดำได้มากกว่า 9 ตัน หรือ 9,000 กก. และเมื่อรวมกับคลองหนองนกไข่ ปฏิบัติการในครั้งนี้ก็สามารถจับปลาหมอคางดำได้มากกว่า 10 ตัน
โดยชาวประมงเรืออวนรุนรายหนึ่งที่เข้าร่วมโครงการ บอกว่า การใช้เรืออวนรุนจับปลาหมอคางดำในลำคลองสายต่าง ๆ นั้น วันนี้ใน จ.สมุทรสาคร เริ่มเบาบางลงแล้ว และทำให้การจับปลาเริ่มมีปริมาณน้อยลง แต่ก็ยังคงต้องช่วยกันจับต่อไป เพื่อทำให้ปริมาณปลาชนิดนี้ลดน้อยลง และก็โชคดีที่ทางสำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสาคร ยังคงคอยประสานพื้นที่ที่พบการระบาดของปลาหมอคางดำ ให้เรืออวนรุนเข้าไปจับปลาได้ แม้ว่าราคาจะลดลงมาบ้าง แต่ก็ถือว่ายังดีอยู่ ส่วนการมาจับปลาหมอคางดำในคลองภาษีเจริญครั้งนี้ ก็ทำให้มีรายได้ค่อนข้างเป็นกอบเป็นกำนำกลับไปให้กับครอบครัว
นายเผดิม รอดอินทร์ ประมงจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ตามได้รับแจ้งจากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ว่า พบปลาหมอคางดำอาศัยอยู่บริเวณคลองภาษีเจริญ คลองหนองนกไข่ ในเขต อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จำนวนมาก ต้องการให้สำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสาครลงพื้นที่จับ ซึ่งหลังได้รับแจ้งทางสำนักงานฯ ก็ได้หารือกับ FC สมุทรสาคร พันธมิตร ทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาชน ในพื้นที่กำหนดวัน “ลงแขก ลงคลอง” ขึ้นในครั้งนี้ เพื่อร่วมกันหยุดการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร พร้อมเชิญชวนประชาชน หน่วยงานต่าง ๆ ช่วยกันรณรงค์และทำกิจกรรมกำจัดปลาหมอคางดำ ในพื้นที่ ๆ พบการแพร่ระบาด เพื่อเร่งกำจัดปลาหมอคางดำให้หมดไป คืนความสมดุลให้กับระบบนิเวศบ้านเรา ส่งต่อให้ลูกหลานอย่างยั่งยืนสืบไป
ขณะเดียวกัน ก็ขอความร่วมมือจากพี่น้องประชาชนทุกพื้นที่ ห้ามเพาะเลี้ยงปลาหมอคางดำโดยเด็ดขาด หากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับสูงสุด 2 ล้านบาท หรือจำคุก 2 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ ส่วนการตรวจวัดผลเพื่อประเมินถึงปริมาณปลาหมอคางดำในแต่ละสายคลองว่าลดลงหรือเบาบางลงแล้วจริงหรือไม่นั้น ทางสำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสาครได้วางแผนไว้ว่าในอีก 3 เดือนข้างหน้า หลังจากที่ปฏิบัติการลงแขกลงคลองไปแล้ว ก็จะกลับมาเหวี่ยงแหลงคลองอีกครั้ง เพื่อพิสูจน์ทราบว่ายังคงมีการเจริญเติบโตหรือขยายพันธุ์ของปลาหมอคางดำในแต่ละสายคลองหรือไม่
ขณะที่สำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสาคร ได้เปิดเผยข้อมูลการกำจัดปลาหมอคางดำ นับตั้งแต่วันที่ 2 ก.พ. 2567 – 7 ก.ย. 2567 กำจัดปลาหมอคางดำไปแล้วทั้งหมด 1,435,440 กก. โดยจำแนกเป็น ปฏิบัติการกำจัดปลาหมอคางดำระหว่างวันที่ 2 ก.พ. – 31 ก.ค. 2567 จำนวน 616,810 กก. การยางแห่งประเทศไทย (กยท.) ระหว่างวันที่ 1-20 ส.ค. 2567 จำนวน 378,571 กก. และบริษัท CPF วันที่ 19 ส.ค. – 7 ก.ย. 2567 จำนวน 440,059 กก.
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ