
“ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานคณะก้าวหน้าขึ้นเวทีปราศรัย จ.สมุทรสาคร รณรงค์ให้ประชาชนผู้มีคุณสมบัติลงสมัคร สว. ชี้สำคัญต่อการพัฒนาประเทศ ยิ่งมี สว. อิสระ มากเท่าไหร่ โอกาสล็อกโหวตน้อย คนดี เด่น ดัง จะได้เป็น สว. มากขึ้น ปัดไม่ต้องการ สว.-องค์กรอิสระสีส้ม เพราะจะวุ่นวายไม่จบสิ้น
เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 30 เม.ย. 2567 ที่บริเวณริมเขื่อนศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสมุทรสาคร ต.มหาชัย อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ได้ขึ้นเวทีปราศรัยในหัวข้อ “สมุทรสาครถาม ธนาธรตอบ” รณรงค์ให้ประชาชนผู้มีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมาย ไปลงสมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในแคมเปญ “สว.ประชาชน” โดยมีประชาชนเข้าร่วมรับฟังการปราศรัยกว่า 50 คน ทั้งผู้ที่ประสงค์จะลงสมัครรับเลือกเป็น สว. หรือผู้ที่กำลังตัดสินใจจะลงสมัครฯ รวมถึงผู้ที่มาสังเกตการณ์ ขอรับฟังข้อมูลอย่างเดียว

สำหรับสาระสำคัญในการปราศรัย นายธนาธรได้ยกตัวอย่างกรณีที่ กกต. มีการเปลี่ยนแปลงการจัดตั้งรัฐบาลผ่าสูตรคำนวณ สส. บัญชีรายชื่อ ในการเลือกตั้งเมื่อปี 2562, กรณี ป.ป.ช. ตรวจสอบนาฬิกาหรูของอดีตรองนายกรัฐมนตรี, กรณีอดีตรอง ผบ.ตร. ยื่นหนังสือร้องเรียนกรรมการ ป.ป.ช. คนหนึ่ง, กรณี ป.ป.ช. กับการตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิต อดีต สส. พรรคอนาคตใหม่ ฐานผิดจริยธรรม สส. และกรณีศาลรัฐธรรมนูญกับการยุบพรรคและตัดสิทธิ์ สส. เป็นต้น ซึ่งเป็นหนึ่งปัญหาสำคัญของการเมืองไทยในรอบ 20 ปี นิยามความขัดแย้งว่าสาเหตุเกิดจากเรื่อง 2 มาตรฐาน คนสองกลุ่มทำแบบเดียวกัน แต่ได้ผลลัพธ์ไม่เหมือนกัน โดย สว. เป็นผู้พิจารณาให้ความเห็นชอบผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ และศาลรัฐธรรมนูญ รวมถึงวิธีการเลือก สว. จาก 20 กลุ่มอาชีพ ตั้งแต่ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ

นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ปราศรัยตอนหนึ่งว่า ทำไมตนต้องมารณรงค์เรื่องการเลือก สว. ทีแรกตนไม่ค่อยสนใจ แต่พอเข้าใกล้เวลาการเลือก สว. ก็เริ่มมาศึกษาอย่างจริงจัง พบว่าการเลือก สว. สำคัญต่อการพัฒนาประเทศ ประชาธิปไตย และระบบการเมืองไทย อีกทั้งมาเห็นว่ายังมีคนไทยจำนวนมากยังไม่เข้าใจ ยังไม่รู้ว่าเลือก สว. เมื่อใด อย่างไร และทำไม แล้วไม่มีใครรณรงค์ในเรื่องนี้เลย ดังนั้นตนจึงขอรณรงค์ด้วยตนเอง เพื่อให้คนไทยได้รับรู้เรื่องนี้ให้กว้างขวางและแพร่หลายมากที่สุด
นายธนาธร กล่าวต่อไปว่า ถ้าเอาคนไทย 70 ล้านคนเป็นตัวตั้ง การกำหนดคุณสมบัติคนที่อายุ 40 ปีขึ้นไป แล้วต้องจ่ายค่าสมัคร 2,500 บาท เท่ากับว่าตัดคนออกไปครึ่งหนึ่งแล้ว อีกทั้งคนที่เป็นข้าราชการไม่สามารถสมัคร สว. ได้ และที่สำคัญคนจนเข้าไปสมัคร สว. ไม่ได้ก็ตัดคนออกไปอีก ดังนั้นคนที่เข้าไปมีส่วนร่วมกับการเลือก สว. ได้มีไม่เยอะจริง ๆ แล้วถ้าทุกคนเพิกเฉย ก็จะได้ สว.แบบเดิม ๆ ที่ไม่มีอุดมการณ์และมาจากเครือข่ายจัดตั้ง
เราแบ่งกลุ่มอาชีพในการเลือก สว. ออกเป็น 20 กลุ่ม คาดหวังว่าคนที่มีคุณสมบัติและความสามารถในแต่ละกลุ่มอาชีพ จะได้รับการเชื่อมั่นจากเพื่อนร่วมอาชีพเลือกกันมาดำรงตำแหน่ง สว. แต่ด้วยกฎการเลือกตั้งแบบนี้ คนที่ดี เด่น ดัง ในสายอาชีพนั้น ถ้าเดินไปสมัครแค่คนเดียวก็ไม่ผ่านตั้งแต่รอบอำเภอ ซึ่งระบบการเลือกตั้งไม่ได้สนับสนุนคนเหล่านั้นเข้ามาเป็น สว. ได้ แต่สนับสนุนให้คนที่มีเงินและเครือข่าย
และนี่คือหน้าที่ของคนที่รักประชาธิปไตย ที่อยากจะฟื้นฟูประชาธิปไตยและความเป็นธรรม ถ้า 2,500 บาท ไม่ได้เป็นภาระทางเศรษฐกิจมากขนาดนั้น ก็ช่วยกันลงไม้ลงมือไปลงสมัคร สว. ยิ่งมี สว. อิสระ มากเท่าไหร่ โอกาสที่จะล็อกโหวต ล็อก สว. ยิ่งน้อยเท่านั้น โอกาสที่คนดี เด่น ดัง จะได้เป็น สว. ยิ่งมีมากขึ้นเท่านั้น ถ้าเราอยากได้ สว. ที่มีอุดมการณ์และคุณภาพ คนที่มีคุณสมบัติสมัคร สว. ได้ต้องออกแรง นั่นคือเหตุผลที่ตนพูดกับทุกคนในครั้งนี้ เพื่อบอกทุกคนว่าอย่าเสียโอกาสนี้ไป เพราะจะต้องรออีก 5 ปี

นายธนาธร กล่าวอีกว่า ตนไม่ต้องการศาลรัฐธรรมนูญที่เข้าข้างธนาธร ไม่ต้องการ กกต. ที่เข้าข้างพรรคก้าวไกล ไม่ต้องการ ป.ป.ช. สีส้ม ไม่ต้องการ สว. ที่สนับสนุนพรรคก้าวไกล เพราะรู้ว่าถ้าองค์กรอิสระและ สว. มาสนับสนุนพวกตนโดยไม่ยึดหลักการ เดี๋ยวอีกฝั่งหนึ่งก็ลงถนนอีก พวกตนอยากได้ศาลรัฐธรรมนูญที่เป็นธรรม กกต.ที่เป็นกลาง ป.ป.ช. ที่รักความยุติธรรม ตัดสินคดีต่าง ๆ ด้วยหลักการที่ถูกต้อง และ สว. ที่เป็นกลาง นี่คือจุดเริ่มต้นที่จะทำให้ประเทศไทยกลับสู่ความเป็นปกติทางการเมือง พวกตนไม่อยากได้ สว. หรือศาลรัฐธรรมนูญสีส้ม เพราะรู้ว่าถ้าเป็นแบบนั้น ถ้าเอียงกะเท่เร่ ไม่ถือหลักการที่ถูกต้อง ก็ประท้วงกัน ชุมนุมกัน ทำรัฐประหารกัน ก็วุ่นวายไม่มีที่จบที่สิ้น จะเริ่มต้นพาการเมืองไทยไปสู่ยุคสมัยใหม่ได้ มีแต่ทำให้องค์กรเหล่านี้กลับมาเป็นธรรมและเป็นกลางเท่านั้น
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ