“หมู่บ้านวัดราษฎร์” ต.หลักสาม ได้รับเลือกเป็น “หมู่บ้านรักษาศีล 5” จังหวัดสมุทรสาคร ปี 2566

จังหวัดสมุทรสาคร พิจารณาคัดเลือก “หมู่บ้านวัดราษฎร์” ต.หลักสาม อ.บ้านแพ้ว เป็นหมู่บ้านรักษาศีล 5 ประจำปี 2566

วันนี้ (4 ก.ย.) เวลา 08.00 น. คณะกรรมการมหาเถระสมาคม (ระดับหนกลาง)ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม และตรวจติดตามการดำเนินงานตามโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5” ประจำปี 2566 ของชุมชนบ้านวัดราษฎร์ หมู่ 2 ต.หลักสาม อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร ณ วัดราษฎร์ศรัทธากะยาราม โดยมี พระพรหมเสนาบดี เจ้าคณะภาค 7 เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคาราม กรรมการมหาเถรสมาคม รองประธานอำนวยการโครงการฯ เป็นประธาน

ร่วมด้วย กรรมการมหาเถรสมาคม(ระดับหนกลาง) พระราชวชิรโมลี รองเจ้าคณะภาค 14 พระเทพสาครมุนี ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 14 พระมงคลพัฒนาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร พระรามัญมุนี เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร (ธ) นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร รวมถึงคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการฯ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายอำเภอ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดสมุทรสาคร วัฒนธรรมจังหวัดสมุทรสาคร กำนันตำบลหลักสาม ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.หลักสาม และผู้ทรงเกียรติจากภาคส่วนต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม

นายณรงค์ รักร้อย ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า ในโอกาสที่คณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5”ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมติดตามผลการดำเนินงานโครงการฯ ของจังหวัดสมุทรสาคร ในครั้งนี้ นับเป็นขวัญกำลังใจแก่คณะสงฆ์และประชาชนชาวจังหวัดสมุทรสาคร ในการขับเคลื่อนงานด้านพระพุทธศาสนาเป็นอย่างยิ่ง โดยในส่วนของจังหวัดสมุทรสาคร มีวัดทั้งสิ้นจำนวน 110 วัด 3 นิกาย ประกอบด้วย มหานิกาย จำนวน 98 วัด ธรรมยุต จำนวน 11 วัด และอนัมนิกาย จำนวน 1 วัด ประชากรของ จ.สมุทรสาคร เป็นคนไทยเชื้อสายจีน และคนไทยเชื้อสายรามัญ ประกอบอาชีพอุตสาหกรรม  ประมง และเกษตรกรรม ดำเนินชีวิตตามหลักธรรมทางพระพุทธศาสนา เข้าวัดปฏิบัติธรรมอยู่เป็นนิจ ให้ความร่วมมือสนับสนุนกิจกรรมทางพระพุทธศาสนาด้วยดีตลอดมา

ขณะที่การดำเนินงานโครงการหมู่บ้านรักษาศีล 5 นั้น เป็นการทำงานของภาคีเครือข่าย โดยบูรณาการร่วมกันตามหลักบวรในการขับเคลื่อนโครงการฯ และ ตามหลักเบญจศีล เบญจธรรม ที่ดำเนินการผ่านโครงการหมู่บ้านยั่งยืน บ้านมีรักปลูกผักกินเอง เพื่อให้คนในชุมชนมีความมั่งคงทางด้านอาหารที่อุดมสมบูรณ์ นอกจากนี้โครงการฯ ต่าง ๆ ที่จัดทำขึ้นยังเพื่อมุ่งหวังให้ประชาชนอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน และนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนามาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตอีกด้วย โดยในปี 2566 ทางจังหวัดสมุทรสาคร ได้พิจารณาคัดเลือกให้บ้านวัดราษฎร์ หมู่ 2 ต.หลักสาม อ.บ้านแพ้ว จ.สมุทรสาคร เป็นสถานที่รับ การตรวจเยี่ยม และติดตามการดำเนินงานโครงการฯ ครั้งนี้

สำหรับหมู่บ้านวัดราษฎร์ ชาวบ้านในอดีตมีถิ่นฐานมาจากมอญบ้านเกาะ และมอญบางปลาที่ได้มาจับจองที่ทางทำมาหากินในบริเวณนี้ ตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 เพราะที่ดินแถบนี้เป็นดินดี อุดมสมบูรณ์ จึงตั้งรกรากถิ่นฐานบริเวณนี้กันสืบมา โดยมีวัดราษฎร์ศรัทธากะยาราม (วัดมอญ) เป็นศูนย์กลางในการรวมจิตใจและจัดพิธีกรรมทางพระพุทธศาสนา ซึ่งยังคงมีการสวดบาลีทั้งอย่างไทย และภาษาบาลีอย่างรามัญ มีพระรามัญมุนี เป็นเจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน และเป็นเจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร (ธ.) ปัจจุบัน บ้านวัดราษฎร์ หมู่ 2 ต.หลักสาม มีนายศิริศักดิ์ อภิญญาสัจจะ เป็นผู้ใหญ่บ้าน นายสันติ หงษา กำนันตำบลหลักสาม ประชาชนส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม มีวิสัยทัศน์ชุมชน คือ ชุมชนเข้มแข็ง เสริมสร้างแรงศรัทธา ชุมชนแห่งภูมิปัญญาท้องถิ่น

ทั้งนี้ ภายหลังจากการตรวจติดตามและสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโดยกรรมการขับเคลื่อนโครงการฯ เป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น  พระพรหมเสนาบดี เจ้าคณะภาค 7 เจ้าอาวาสวัดปทุมคงคาราม รองประธานอำนวยการโครงการฯ ยังได้มอบโล่ประกาศเกียรติคุณ โครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5” ประจำปี 2566 ให้แก่ผู้ที่ทำคุณประโยชน์ต่อการดำเนินโครงการฯ จำนวน 25 ท่าน ก่อนกล่าวให้โอวาทและปิดโครงการ พร้อมเยี่ยมชมนิทรรศการด้านต่างๆ ของหมู่บ้านวัดราษฎร์

สำหรับโครงการสร้างความปรองดองสมานฉันท์ โดยใช้หลักธรรมทางพระพุทธศาสนา “หมู่บ้านรักษาศีล 5”   เกิดขึ้นในปี 2557 จากสถานการณ์บ้านเมืองที่ประสบปัญหาการกระทำผิดกฎหมาย ปัญหาอาชญากรรม การทำลายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การระบาดของสิ่งเสพติดและอบายมุขเนื่องจากการขาดสติ จิตสำนึกที่ดี ศีลธรรม คุณธรรม และจริยธรรม อันจะส่งผลให้สังคมเกิดความขัดแย้ง คณะสงฆ์โดยสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญโญ ป.ธ.9) อดีตเจ้าอาวาสวัดปากน้ำภาษีเจริญ มีดำริเสริมสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ของคนในชาติให้เกิดความสงบ โดยมุ่งเน้นให้พุทธศาสนิกชน ได้น้อมนำหลักศีล 5 มาประพฤติปฏิบัติในการดำเนินชีวิตประจำวันตามดำริ ที่เจ้าประคุณสมเด็จฯ ได้ประทานโอวาทไว้ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2556 ความว่า “อันว่าศีล 5 เป็นการสำคัญมนุษย์ เมื่อทุกคนมีศีล 5 ด้วยกัน สังคม นั้น ๆ คือ ประชาชนย่อมจะอยู่เย็นเป็นสุข เมื่อเป็นไปได้ขอให้ชื่อหมู่บ้านนั้นว่าหมู่บ้านรักษาศีล 5

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *