ถนนพระรามที่ 2 ถือเป็นเส้นทางหลักลงสู่ภาคใต้ของประเทศไทย จากกรุงเทพฯ ไปบรรจบกับถนนเพชรเกษมที่แยกวังมะนาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ข้อมูลจากกรมทางหลวงในปี 2566 มีปริมาณการจราจรสูงสุดกว่า 256,000 คันต่อวัน เฉพาะรถยนต์ที่มุ่งหน้าไปยังจังหวัดสมุทรสงครามและภาคใต้ เฉลี่ยวันละ 70,000-81,000 คัน
ปัจจุบัน มีโครงการทางพิเศษ 2 สายทาง เริ่มจาก โครงการทางพิเศษสายพระราม 3-ดาวคะนอง-วงแหวนกรุงเทพมหานครด้านตะวันตก ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย ระยะทาง 18.7 กิโลเมตร และโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) หมายเลข 82 บางขุนเทียน-บ้านแพ้ว ของกรมทางหลวง ระยะทาง 24.6 กิโลเมตร
ทั้งสองโครงการกำลังเดินหน้าก่อสร้างให้เป็นไปตามแผน ซึ่งผู้รับเหมาทุกรายและทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ยืนยันว่าสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ตามกำหนด โดยรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม พร้อมให้การสนับสนุนทุกภาคส่วน ทุกสัญญาต้องแล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค. 2568 ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวกในการเดินทางลงสู่ภาคใต้ได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวที่ไปยังจุดหมายปลายทางยอดนิยม อาทิ อัมพวา สวนผึ้ง ชะอำ และหัวหิน
วันนี้ผมมีโอกาสได้เดินทางเห็นถึงความคืบหน้าของการก่อสร้าง และมีโอกาสได้แวะพักรถในระหว่างเดินทางบริเวณกิโลเมตรที่ 36+500 ก่อนถึงทางแยกต่างระดับบ้านแพ้ว ซึ่งจุดนี้นับเป็นตำแหน่งที่สำคัญ เป็นจุดสิ้นสุดโครงการ มีทางลงที่ด่านบ้านแพ้ว เมื่อตรงไปอีกเพียง 5 กิโลเมตร จะพบกับ “Porto Go ท่าจีน” บริเวณกิโลเมตรที่ 41
ผมมีโอกาสได้แวะมาอีกครั้ง ณ จุดนี้กลายเป็นจุดพักรถทำเลทองในอนาคตอันใกล้ เพราะเป็นจุดพักรถขนาดใหญ่จุดแรกเมื่อลงจากทางด่วน
“Porto Go ท่าจีน” โดดเด่นด้วยร้านค้าไดร์ฟ-ทรูแบรนด์ดัง อย่าง Starbucks Coffee กับ KFC และร้านค้าในรูปแบบไดร์ฟ-ทรูแห่งแรกในไทย อย่าง ชาตรามือ กับ วราภรณ์ซาลาเปา ที่ผม หรือคนสมุทรสาครเองต่างก็ภาคภูมิใจ เพราะเป็นเสมือน Landmark เชิงสัญลักษณ์อีก 1 จุดจังหวัดสมุทรสาคร ที่ตอบโจทย์การเดินทางที่สะดวก สามารถสั่งอาหารและเครื่องดื่มได้โดยไม่ต้องลงจากรถ หรือจะเลือกรับประทานในร้านก็มีที่นั่งรองรับเช่นกัน
เมื่อเข้าไปด้านในโครงการ จะพบกับร้านค้า ร้านอาหารและเครื่องดื่มมากมาย พร้อมที่จอดรถกว่า 200 คันที่ออกแบบ Layout การใช้งานเชื่อมต่อทางเดินมายังร้านค้าต่างๆให้คุณแวะพักที่นี่ได้อย่างมีความสุข มี รปภ. คอยดูแลทั้งเรื่องการจราจรและความปลอดภัยภายในโครงการ ห้องน้ำสะอาดติดแอร์ และยังมีห้องให้บริการเฉพาะ เช่น โซนให้นมบุตร ห้องน้ำคนพิการ หรือแม้กระทั่งห้องน้ำครอบครัว ที่ทุกๆ พื้นที่นอกจากสะอาด อุปกรณ์ครบได้มาตรฐาน ยังติดแอร์ด้วยเช่นกัน มีสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า EV ให้เลือกทั้ง Elex by EGAT และ EA Anywhere และมีสถานีบริการน้ำมันคาลเท็กซ์ กับน้ำมันคุณภาพระดับโลก
ซึ่งในเดือนตุลาคม ถึงธันวาคมนี้ นับเป็นช่วงเวลาสำคัญของภาคการท่องเที่ยว ผมถึงกับเซอร์ไพร์ส ที่พบว่ามีร้านเปิดใหม่เพื่อรองรับนักเดินทาง วันนี้ผมจึงไม่พลาดที่จะเก็บภาพมาฝากกัน
ร้านกวางทองคาเฟ่ กับประสบการณ์ขนม กาแฟ และเครื่องดื่มที่ไม่เหมือนใครและแปลกใจที่ได้มาสัมผัสในสถานที่ที่เป็นจุดพักรถ เพราะเมนูเด็ดของทางร้านที่มาแล้วไม่ลองสำหรับผม พลาดมากๆๆ ครัวซองต์และมาการองมีหลากหลายรสชาติให้เลือก อบสดใหม่ทุกวัน เครื่องดื่มและกาแฟ กับเมนูซิกเนเจอร์ ทั้งกาแฟทริปเปิ้ลเบอร์รี่ สตรอว์เบอร์รีช็อกโก้ ชาเขียวมะพร้าว กาแฟเลมอนโซดา และอเมริกาโน่ชีสบอกเลยว่าผมกลับไปฝันถึงเลยทีเดียว
อีกหนึ่งร้านสำหรับสายกิน กับก๋วยเตี๋ยวเนื้อโกเบมหาชัย ด้วยจุดเด่นที่เนื้อวัวและเนื้อหมูตุ๋นจนเปื่อยนุ่ม พร้อมน้ำซุปละมุนลิ้น ลูกค้านิยมสั่งเกาเหลาโคตรพิเศษ จัดเต็มด้วยเนื้อวัวส่วนต่างๆ และเครื่องเคียง และยังมีเมนูหม้อไฟเนื้อสำหรับครอบครัว ซึ่งร้านนี้ถือเป็นร้านมีชื่อของจังหวัด เปิดมาแล้วกว่า 3 สาขา แต่ต้องบอกว่าสาขาใหม่ที่ “Porto Go ท่าจีน” นี้แต่งร้านสวย เหมาะกับสายถ่ายรูป แชะ แชร์ ยิ่งนัก
และคงจะไม่พูดถึงไม่ได้ว่ายังมีร้านค้ามีมากมายที่เติมเต็มประสบการณ์การแวะพักสำหรับนักเดินทางเป็นอย่างดี เช่น ข้าวแกงพรีเมี่ยม ร้านคาเฟ่อเมซอน ร้านคริสปี้ครีม ร้านทองการ์เด้น และร้านอิ่มสะดวกอย่างเซเว่นอีเลฟเว่น ที่แวะเข้าไปแล้วรู้เลยว่าที่นี่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เข้ามาใช้บริการเป็นจำนวนมาก มีสินค้าสำหรับคนเดินทางและไอเท็มยอดฮิตของชาวต่างชาติที่ต้องติดกระเป๋ากลับไปในทริปนี้
และที่นี่ยังมีโซนร้านค้าชุมชน ซึ่งมาในรูปแบบตลาดเช้า เริ่มกันตั้งแต่ไก่โห่ 7 โมงเช้าเป็นต้นไป ทุกวันศุกร์-อาทิตย์ ที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการท้องถิ่น นำสินค้าของกินของใช้ ของดีของอร่อยมาจำหน่ายกันภายในโครงการ ถือเป็นส่วนหนึ่งเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนอีกรูปแบบนึง
ถือว่าการมาของทางยกระดับบนถนนพระราม 2 สร้างโอกาสมากมายให้กับระบบเศรษฐกิจของจังหวัดสมุทรสาคร ตามที่ได้เห็นการขยับตัวที่เกิดขึ้นในวันนี้ ทั้งของผู้ประกอบการรายใหญ่ จนถึงรายเล็กๆ ในพื้นทีที่มองเห็นโอกาสในการลงทุน สำหรับการมาของภาคธุรกิจและการท่องเที่ยวที่จะเติบโตขึ้นในอนาคต ซึ่งวันนี้ Porto Go ท่าจีน ก็ยังไม่หยุดพัฒนา ยังทำการพัฒนาและขยายโซนพื้นที่เช่า ไม่ว่าจะเป็นบูทร้านค้า หรือร้านค้าเช่าต่างๆ ในโครงการเพื่อรองรับโอกาสในการลงทุน ที่จะเข้ามาจากการเป็นจุดแรกของทางลงทางต่างระดับบ้านแพ้ว
หากท่านใดทองเห็นโอกาสและอยากจะติดต่อเพื่อลงทุน สามารถติดต่อได้ที่ 098-2484239 และ 098-2484238
“Porto Go ท่าจีน” ยังคงพัฒนาพื้นที่ร้านค้าและบริการอย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อให้เป็นจุดพักรถที่ดีที่สุดของนักเดินทางสายใต้ ที่นักเดินทางและนักท่องเที่ยวไว้ใจได้ สมดังเป้าหมาย “จุดเริ่มสุข ของทุกทริป”.