“ไม่ทรยศเสียงของประชาชน” คุยกับ “ฟลิ้น ณัฐพงษ์” สส.สมุทรสาคร ย้ายสู่บ้านหลังใหม่ “พรรคประชาชน”

หลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์สั่งยุบอดีตพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิทางการเมืองกรรมการบริหารพรรค 11 คน เป็นเวลา 10 ปี เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม 2567 ด้วยข้อหามีพฤติการณ์การกระทำล้มล้างและเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข

อีก 2 วันถัดมา 143 สส. ของอดีตพรรคก้าวไกล หนึ่งในนั้นมี สส. สมุทรสาคร ทั้ง 3 เขต ได้ย้ายไปสังกัดที่บ้านใหม่ “พรรคประชาชน” (ปชช) พร้อมเปิดตัวกรรมการบริหารพรรคฯ นำโดย “สส.เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมย้ำจุดยืนอุดมการณ์ยังคงเหมือนเดิมสมัยอดีตพรรคอนาคตใหม่และอดีตพรรคก้าวไกล

ล่วงเลยมาถึงวันที่ 14 สิงหาคม 2567 ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้ เศรษฐา ทวีสิน พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 พร้อมคณะรัฐมนตรี หลังจากอยู่ในตำแหน่งได้ 358 วัน เนื่องจากกรณีการแต่งตั้ง พิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ทั้งที่มีคุณสมบัติต้องห้าม

กระทั่งวันที่ 16 สิงหาคม 2567 ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นชอบให้ แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 31 ขณะเดียวกันพรรคประชาชน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้าน ได้แสดงจุดยืนไม่โหวตนายกรัฐมนตรีผสมข้ามขั้ว และ สส. ของพรรคฯ ทั้งหมดต่างลงคะแนนไม่เห็นชอบต่อ น.ส.แพทองธาร ด้วย

ในห้วงเวลาที่การเมืองฝุ่นตลบเช่นนี้ “สาครออนไลน์” ได้พูดคุยกับ “สส.ฟลิ้น” ณัฐพงษ์ สุมโนธรรม สส. สมุทรสาคร เขต 1 ถึงการทำงานที่ผ่านมาในฐานะผู้แทนราษฎรจากอดีตพรรคก้าวไกล และอนาคตของการทำงานให้กับพรรคประชาชน

พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีต หน.พรรคก้าวไกล แถลงหลังศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคฯ
ภาพจากบัญชี X : @MFPThai

ณัฐพงษ์ เล่าว่า หลังจากได้รับเลือกตั้งก็ได้ทำตามที่ได้หาเสียงไว้กับประชาชน คือ การเข้าไปโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ตนก็ได้โหวตให้คุณพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดทนายกรัฐมนตรี ของอดีตพรรคก้าวไกลในขณะนั้น และไม่ทรยศเสียงของประชาชน รวมถึงที่ผ่านมาได้ใช้กลไกสภาในการทำงานผ่านฝ่ายนิติบัญญัติอย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการเสนอญัตติศึกษากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการประมง เพราะว่า จ.สมุทรสาคร เป็นจังหวัดที่เศรษฐกิจผูกอยู่กับการประมงค่อนข้างมาก พอประมงได้รับความเดือดร้อน ก็กระทบต่อเศรษฐกิจภาพรวมและวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนชาวสมุทรสาครด้วย

รวมถึงการอภิปรายและเข้าไปเป็นคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ. แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. …. ซึ่งตนได้ทำหน้าที่โฆษกคณะกรรมาธิการ ขณะนี้กำลังดำเนินการอยู่ในชั้นกรรมาธิการ คาดว่าจะจบสิ้นในชั้นสภาผู้แทนราษฎรประมาณเดือนกันยายน ซึ่งคณะกรรมาธิการฯ ก็พยายามเร่งรัดพิจารณา เพื่อทำให้กฎหมายได้รับการแก้ไขอย่างรวดเร็วและรอบคอบ นำไปสู่การแก้ไขปัญหาเรื่องประมงให้กับพี่น้องชาวประมง และประเทศไทย

อภิปรายญัตติด่วน “ปลาหมอคางดำ

อีกเรื่องหนึ่ง ตนเป็นตัวแทนลุกขึ้นเปิดญัตติด่วนด้วยวาจาด้วยตนเองเป็นคนแรก เพื่อพิจารณาเสนอแนะแก้ไขปัญหาปลาหมอคางดำ 17 จังหวัด พร้อมดันปัญหาเข้าสู่สภาผู้แทนราษฎรให้มีการอภิปรายและเสนอแนะแนวทางการแก้ไขปัญหา ซึ่งเรื่องนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนและนักการเมืองเยอะมาก โดยได้ลงพื้นที่พูดคุยกับชาวบ้าน รวมถึงการใช้กลไกสภาในการขับเคลื่อนเรื่องนี้

นอกจากนี้ ตนได้เข้าไปเป็นคณะกรรมาธิการการตำรวจ ซึ่งมีเรื่องร้องเรียนต่าง ๆ ก็ใช้กลไกกรรมาธิการผลักดัน เช่น การเสนอให้มีการตั้งคณะอนุกรรมธิการศึกษาสวัสดิการของตำรวจชั้นผู้น้อย รวมถึงเป็นคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาศึกษาและจัดทำข้อเสนอในการส่งเสริมสถาบันพรรคการเมืองให้ยึดโยงกับประชาชน เพื่อให้พรรคการเมืองตั้งง่าย อยู่ได้ ยุบยาก ทั้งหมดเป็นสิ่งตนได้ทำงานในฝ่ายนิติบัญญัติอย่างเต็มที่

และตอนนี้ก็ได้ใช้กลไกสภาในการส่งเสียงให้กับพี่น้องชาวสมุทรสาครที่เลือกตนเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องปัญหาถนนพระราม 2 ไฟไม่ส่องสว่างและความปลอดภัยต่าง ๆ ปัญหารถสาธารณะ ทั้งรถไฟ รถเมล์ ปัญหาเรื่องอุตสาหกรรมกับสิ่งแวดล้อม ทั้งโรงงานลักลอบเก็บกากแคดเมียม โรงงานปล่อยมลภาวะหรือฝุ่นอันตรายต่าง ๆ ปัญหาน้ำประปาในพื้นที่ตำบลพันท้ายนรสิงห์ บางหญ้าแพรก ท่าฉลอม หรือตำบลอื่น ๆ และปัญหาสะพานมหาชัย เป็นต้น ซึ่งประชาชนได้รับความเดือดร้อน ตนก็ใช้กลไกสภาในการปรึกษาหารือส่งเสียงไปยังผู้มีอำนาจ ทำงานร่วมมือประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีการแก้ไขปัญหาแก่พี่น้องประชาชน

งานกรรมาธิการ

เมื่อถามถึงช่วงที่ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งยุบอดีตพรรคก้าวไกล ณัฐพงษ์ เล่าต่อไปว่า หลังจากที่มีการตัดสินยุบพรรค สส. ทุกคนก็เดินหน้าต่อ ย้ายไปสังกัดพรรคประชาชนด้วยกันทั้งหมดทุกคน พร้อมกับอุดมการณ์ของอดีตพรรคอนาคตใหม่และอดีตพรรคก้าวไกล โดยไม่ทรยศเสียงของประชาชน ไม่เป็นงูเห่า เดินหน้าทำงานต่อไป กับสิ่งที่เกิดขึ้นกับอดีตพรรคก้าวไกลนั้น ก็เป็นสิ่งที่ทางพรรคฯ ได้แถลงมาตลอดว่าพรรคการเมืองไม่ควรจะถูกยุบง่าย และก็มีการต่อสู้คดีในประเด็นต่าง ๆ ขอยืนยันว่าไม่ได้เป็นพรรคการเมืองที่ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ทำงานตามหน้าที่ ตามกระบวนการนิติบัญญัติ

ขณะเดียวกันช่วงเวลาที่อดีตพรรคก้าวไกลถูกยุบ ก็มีประชาชนในพื้นที่แสดงความห่วงใยมาถึงตน ต้องขอบคุณที่ให้การสนับสนุนพวกตน ไม่ว่าพรรคการเมืองจะชื่ออะไรแต่อุดมการณ์คงเดิม ประชาชนก็ยังพร้อมสนับสนุน ช่วงที่ตนเปิดสำนักงานฯ รับสมัครสมาชิกพรรคประชาชน ก็มีประชาชนในจังหวัดสมุทรสาครทยอยเข้ามาสมัครสมาชิกค่อนข้างเยอะมาก ก็ทำให้เห็นว่าประชาชนยังสนับสนุนตนอยู่ก็ คิดว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่อุดมการณ์ยังคงเดิม ทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ตนคิดว่าก็ได้รับความสนใจจากพี่น้องประชาชน

บรรยากาศเปิดรับสมัครสมาชิกพรรคประชาชน

ส่วนการแต่งตั้งให้ “สส.เท้ง” ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ เป็นหัวหน้าพรรคประชาชนนั้น เท่าที่ตนเคยสัมผัสมาเป็นคนที่น่าสนใจ ซึ่งชื่อจริงสะกดเหมือนกันกับตน หวังเป็นอย่างยิ่งว่า สส.เท้ง จะได้เป็นแคนดิเดทนายกรัฐมนตรีในปี 2570 สามารถชนะเลือกตั้งแล้วก็จัดตั้งรัฐบาลเป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่ง สส.เท้ง เคยเป็น สส.กทม. พื้นที่บางแค หลังจากนั้นเป็น สส.บัญชีรายชื่อ

ต้องบอกว่า สส.เท้ง เป็นคนที่มีความสามารถมาก นิสัยอ่อนน้อมถ่อมตนรับฟังทุกฝ่าย เป็นคนอ่อนนอกแข็งใน ซึ่งเป็นคุณสมบัติของผู้นำที่ดี และก็มีความสนใจเรื่องการพัฒนาเทคโนโลยีต่าง ๆ ให้เป็นประโยชน์กับทางพรรคฯ เคยเป็นหัวหอกที่สำคัญในการจัดทำไฟล์ PDF ข้อมูลงบประมาณฯ มาแปลงเป็นไฟล์ Excel ให้ประชาชนสามารถตรวจสอบได้ง่ายขึ้น เป็นการพิสูจน์ถึงความสามารถและศักยภาพของหัวหน้าพรรคฯ คนนี้

รวมถึงก่อนหน้าที่ตนจะเป็น สส. ก็เคยมีโอกาสร่วมงานกับ สส.เท้ง ในเรื่องของการกระจายอำนาจ ปลดล็อกท้องถิ่น ซึ่งเป็นนิมิตรหมายที่ดีถ้า สส.เท้ง มีโอกาสเข้าไปบริหารประเทศ คิดว่าทิศทางการกระจายอำนาจของประเทศไทยน่าจะดีขึ้น


ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ (กลาง) หน.พรรคประชาชน
ภาพจากบัญชี X : @MFPThai

สำหรับแนวทางการทำงานในฐานะ สส. พรรคประชาชน ต่อจากนี้ ณัฐพงษ์บอกว่า ตนก็คงทำงานอย่างเต็มที่ ให้เด่นในการทำงานในสภา และทำงานแบบไม่ทิ้งพื้นที่ พยายามที่จะรับฟังพี่น้องประชาชนว่ามีความเดือดร้อนอะไรบ้าง และรับฟังข้อเสนอแนะติชมว่าอะไรเป็นข้อเด่น และอะไรที่เป็นข้อที่แก้ไขปรับปรุง ก็ยินดีรับฟังจะได้ปรับปรุงการทำงาน

ส่วนตัวยังคงเดินหน้าทำงานเต็มที่แบบที่ผ่านมา คือเรามีการลงพื้นที่รับฟังพี่น้องประชาชนแล้วก็เข้าไปทำงานในการประสานงานระดับพื้นที่ แม้กระทั่งใช้กลไกสภาในการทำงานแก้ไขปัญหา หรือผลักดันในการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องเป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน หรือในการส่งเสียงปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนชาวสมุทรสาคร ก็คงจะทำหน้าที่ตรงนี้

ลงพื้นที่พบประชาชน

แล้วก็พยายามไม่ห่างพื้นที่ในการรับฟัง รวมถึงได้ไปเจอ ได้ไปทำงานกับพี่น้องประชาชน พยายามจะรับฟังให้ได้มากที่สุด แล้วก็มาคิดตัดสินใจทำให้สอดคล้องกับแนวทางและนโยบายของพรรคฯ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศรษฐกิจ หรือเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ก็พยายามที่จะศึกษาแล้วก็ทำงานให้แก่พื้นที่

“ยืนยันว่า สส. ทั้ง 3 เขตของ จ.สมุทรสาคร ก็ทำหน้าที่ในส่วนของตัวเอง ทำงานที่เกี่ยวข้องกับความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน แล้วก็ทำงานเหมือนเดิม อะไรที่เป็นมติพรรคประชาชนในการโหวตเรื่องต่าง ๆ เราก็เคารพมติพรรค ก็เดินหน้าไม่แตกแถว ไม่ทรยศเสียงของประชาชน” ณัฐพงษ์ กล่าวปิดท้าย

หมายเหตุ : วันที่สัมภาษณ์ 15 สิงหาคม 2567

-กิตติกร นาคทอง-

ประชาสัมพันธ์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *