
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้องค์กรรัฐและเอกชนหลายภาคส่วน สนับสนุนให้พนักงานทำงานอยู่กับบ้าน (Work From Home) เพื่อลดความเสี่ยงในการติดเชื้อจากการรวมตัวกันของผู้คนหมู่มาก
สำนักงานหลายแห่งในกรุงเทพฯ ให้พนักงานทำงานอยู่กับบ้านตั้งแต่ที่รัฐบาลประกาศมาตรการเร่งด่วน อย่างน้อย 2 สัปดาห์ ถึงสิ้นเดือนมีนาคม 2563 บางแห่งยาวไปถึงต้นเดือนเมษายน หลังวันหยุดนักขัตฤกษ์ (วันจักรี) เลยทีเดียว
การทำงานอยู่กับบ้าน แม้จะพบอุปสรรคในการติดต่อสื่อสารที่จะต้องมีปฏิสัมพันธ์อยู่บ้าง แต่ก็มีข้อดีอีกด้านหนึ่งก็คือ ช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัดในกรุงเทพฯ และประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินทาง
“สาครออนไลน์” มีคำแนะนำ 10 วิธีในการทำงานที่บ้านอย่างไรให้ราบรื่นอยู่เสมอมาฝาก ดังนี้
- จัดบรรยากาศที่นั่งทำงานในบ้าน พยายามหามุมที่เงียบสงบ หรือที่คนในบ้านพลุกพล่านน้อยที่สุด เพื่อให้การทำงานมีสมาธิมากขึ้น เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น แต่หากต้องอยู่ร่วมกับผู้อื่น แนะนำให้ใช้หูฟังเปิดเพลงตัดสิ่งรบกวนเป็นตัวช่วย
- เตรียมเครื่องมือในการทำงานให้พร้อมอยู่เสมอ ทั้งสัญญาณอินเตอร์เน็ต โปรแกรมที่ใช้ในการทำงาน ระบบหลังบ้าน ระบบคลาวด์ของออฟฟิศ ช่องทางติดต่อสื่อสาร ถ้าต้องมีรหัสเข้าใช้งาน ควรร้องขอฝ่ายไอทีให้เรียบร้อย
- มีวินัยในการทำงาน โดยปกติแล้วแต่ละสำนักงานจะมีเวลาทำการแตกต่างกันไป แม้การทำงานที่บ้านจะตื่นช้ากว่าปกติได้ จากปกติต้องออกจากบ้านแต่เช้า แต่ก็ต้องกำหนดเวลาทำงานให้แน่นอน อาศัยนาฬิกาปลุกแจ้งเตือน
- เพิ่มความสดชื่นก่อนทำงาน อาจมีบางคนตื่นขึ้นมาก็งัวเงียเปิดคอมพิวเตอร์ทำงานเลย ทำให้ไม่กระตือรือร้น แนะนำให้หลังตื่นนอน อาบน้ำแปรงฟัน สวมเสื้อผ้าลำลองสบายๆ ทานอาหารเช้าให้อิ่ม แล้วค่อยนั่งทำงาน
- ติดต่อสื่อสารกัน แม้องค์กรจะให้ทำงานอยู่ที่บ้าน แต่ไม่ได้หมายความว่าจะตัดขาดจากโลกภายนอก บางครั้งอาจมีประชุมผ่านวีดีโอคอนเฟอเรนซ์ ควรเปิดช่องทางติดต่อสื่อสารตลอดเวลาและเตรียมความพร้อมอยู่เสมอ
- ลดหรือเลี่ยงน้ำตาลและไขมัน เนื่องจากการทำงานที่บ้านใช้พลังงานปานกลาง ควรลดหรือหลีกเลี่ยงอาหารประเภทช็อกโกแลต ชาไข่มุก ขนมรสหวานจัด น้ำหวาน น้ำอัดลม ฯลฯ อาจหันมาทานผลไม้รสเปรี้ยวแทน
- พักสายตา การทำงานหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานานๆ ทำให้สายตาเมื่อยล้า เมื่อทำงานทุก 2-3 ชั่วโมง ควรหยุดพักจากจอคอมพิวเตอร์สัก 15 นาที เพื่อถนอมสายตา หรืออย่างน้อยควรมีเวลาพักเที่ยงด้วยตัวเอง
- อย่าแอบนอนกลางวันหรือดูหนัง แม้การทำงานที่บ้านจะไม่มีคนในออฟฟิศจับผิด แต่พฤติกรรมบางอย่างอาจทำให้เสียงาน เช่น แอบงีบนอนกลางวัน หรือดูหนัง ดูซีรีส์ต่างๆ ถ้าติดงอมแงมแนะนำให้เปิดอีกจอ และทำงานไปด้วย
- ทำอาหารกินเอง แม้ปัจจุบันจะมีบริการสั่งอาหารจากร้านผ่านแอปฯ แต่ค่าอาหารบวกค่าส่งพบว่ามีค่าใช้จ่ายที่สูง การทำอาหารกินเองที่บ้านจึงช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก แต่ก็ไม่ขัดหากนานๆ จะสั่งครั้งหนึ่งเป็นรางวัลให้ตัวเอง
- ออกกำลังกายเสียบ้าง อาจจะใช้เวลาหลังเลิกงานแต่ละวัน ออกกำลังกายในบ้านอย่างน้อย 30 นาที แต่ถ้าจำเป็นต้องออกนอกบ้าน ใช้หลัก Social Distancing ห่างจากผู้อื่น 2 เมตร หรือ 6 ฟุต เพื่อหลีกเลี่ยงการติดต่อของโรค
อย่างไรก็ตาม การทำงานอยู่กับบ้านเท่ากับต้องรับผิดชอบชีวิตตัวเอง จึงควรแบ่งเวลาชีวิตของตัวเองให้สมดุล เวลาไหนทำงาน เวลาไหนพักผ่อน ไม่ควรปะปนกันมากเกินไปจนเสียงานหรือเสียเวลาชีวิต
-กิตตินันท์ นาคทอง-