
โรงพยาบาลสมุทรสาคร เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วยกว่า 300 เตียง ของอาคาร 12 ชั้น ไปยังที่ปลอดภัย หลังได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวที่เมียนมา ผู้ว่าฯ รุดตรวจที่เกิดเหตุ ประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสำรวจทุกอาคาร
เมื่อเวลา 13.25 น. ของวันที่ 28 มี.ค. 2568 เกิดแผ่นดินไหว ขนาด 7.7 มีศูนย์กลางอยู่บริเวณเมืองสะกาย ทางภาคกลางของประเทศเมียนมา ความลึก 10 กม. ส่งผลให้เกิดแรงสั่นสะเทือนมาถึงประเทศไทย โดยเฉพาะกรุงเทพฯ และปริมณฑล สำหรับจังหวัดสมุทรสาครนั้น ก็รับรู้ถึงแรงสั่นสะเทือนนี้เช่นกัน โดยมีรายงานข่าวแจ้งว่า หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหว อาคาร 12 ชั้นของโรงพยาบาลสมุทรสาคร พบรอยร้าวบริเวณภายนอกอาคาร และมีฝ้าเพดานร่วงลงมา ทำให้ต้องมีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยที่ทำการรักษาอยู่ภายในอาคารไปยังที่ปลอดภัยเป็นการชั่วคราว

ภายหลังเกิดเหตุ นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายอุดม ไกรวัตนุสสรณ์ นายก อบจ.สมุทรสาคร ร.ต.ประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ลงพื้นที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร เพื่อติดตามการอพยพผู้ป่วยที่รักษาตัวภายในโรงพยาบาลฯ โดยเฉพาะผู้ที่นอนรักษาตัวที่ตึก 12 ชั้นโรงพยาบาลสมุทรสาคร โดยมี นพ.ศุภฤทธิ์ เฮงคราวิทย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมุทรสาคร พร้อมคณะผู้บริหารของโรงพยาบาลฯ ร่วมให้ข้อมูล

ขณะที่บรรยากาศในโรงพยาบาลสมุทรสาครพบว่า เป็นไปอย่างอลหม่าน แพทย์-พยาบาล และบุคลากรของโรงพยาบาลฯ ร่วมกับเจ้าหน้าที่อาสากู้ภัยมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพจากโรงพยาบาลใกล้เคียง เจ้าหน้าที่จากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ทหารจากค่ายกำแพงเพชรอัครโยธิน ร่วมกันเคลื่อนย้ายผู้ป่วยลงมาจากอาคารโดยเร็วที่สุด
โดยผู้ป่วยจำนวนกว่า 300 เตียง ที่รักษาตัวอยู่ในอาคาร 12 ชั้น โรงพยาบาลสมุทรสาครนั้น หากเป็นผู้ป่วยที่มีอาการไม่หนักมากสามารถกลับบ้านได้ ก็มีการประสานญาติให้มารับกลับไปพักรักษาตัวที่บ้านชั่วคราว แต่ถ้าเป็นกรณีผู้ป่วยรายใดที่ยังต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ หรือใช้อุปกรณ์ทางการแพทย์ ก็จะให้อพยพไปใช้พื้นที่ของโรงเรียนอนุบาลสมุทรสาคร และโรงเรียนเทศบ้านบาลมหาชัย (อนุกูลราษฎร์) ซึ่งเปิดเป็นโรงพยาบาลสนาม ส่วนผู้ป่วยเคสหนักได้มีการส่งต่อไปยังโรงพยาบาลใกล้เคียง ขณะที่งานจราจร สภ.เมืองสมุทรสาคร ได้อำนวยการจราจรบริเวณถนนเอกชัย บริเวณหน้าโรงพยาบาลสมุทรสาคร และหน้าโรงเรียนทั้ง 2 แห่งที่ใช้เป็นโรงพยาบาลสนาม เพื่อให้ทางเจ้าหน้าที่ได้ปฏิบัติงานเคลื่อนย้ายผู้ป่วยอย่างสะดวกและรวดเร็วที่สุด

นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าว เบื้องต้นทางจังหวัดสมุทรสาคร ได้มีการประสานไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทุกแห่งให้มีการตรวจสอบพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ รวมทั้งสิ่งปลูกสร้าง อาคารต่าง ๆ ว่ามีจุดไหนได้รับผลกระทบหรือไม่มากน้อยเพียงใด โดยเฉพาะอาคารสูงซึ่งจะมีความเสี่ยงมาก ส่วนการลงพื้นที่โรงพยาบาลสมุทรสาครในครั้งนี้ จากกรณีอาคาร 12 ชั้น พบความเสียหาย มีรอยร้าวจากด้านนอกนั้น จะต้องให้ทางทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบ แล้วประเมินว่ามีความปลอดภัยหรือสามารถกลับเข้าไปใช้ได้อย่างมั่นคงหรือไม่ หากการประเมินตัวอาคารเสร็จสิ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่ามีความปลอดภัย จะสามารถพิจารณานำผู้ป่วยกลับเข้ามารักษาอีกครั้ง

นอกจากนี้ ที่หลายคนวิตกกังวลคือ เรื่องของการก่อสร้างบนถนนพระรามที่ 2 ในพื้นที่ความรับผิดชอบของจังหวัดสมุทรสาคร ได้ประสานสอบถามไปทางผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสมุทรสาคร ทราบว่า เบื้องต้นในขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงานความเสียหายจากโครงการก่อสร้าง เนื่องจากอยู่ในระหว่างการสำรวจ โดยเชื่อว่าทางโครงการก่อสร้างทั้ง 10 ตอนนั้นจะต้องมีการรายงานผลเข้ามาให้ได้รับทราบต่อไป ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารอย่างเป็นระยะ กับปฏิบัติตนตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่ เมื่อเกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ด้วย
สาครออนไลน์ โดย กิตติกร นาคทอง