
ชุดปฏิบัติการพิเศษอำเภอกระทุ่มแบน โชว์ผลงานรวบ 2 หนุ่ม จำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าผ่านช่องทางออนไลน์ แถมจัดโปรส่งฟรี 24 ชม. พร้อมยึดของกลางเพียบ
เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 5 มี.ค. 2568 นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายบรรพต จันทรวงษ์ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร และนายณัฐพล บุญทวี ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานบริหารงานปกครอง รักษาราชการแทนนายอำเภอกระทุ่มแบน ได้ร่วมกันเผยผลการจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่ฯ ณ ที่ว่าการอำเภอกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยชุดปฏิบัติการพิเศษอำเภอกระทุ่มแบน ได้จับกุมผู้กระทำความผิด 2 ราย คือ นายวรนาถ ต้นกันยา อายุ 29 ปี กับนายวิสุทธิ์ ประสารเชื้อ อายุ 31 ปี พร้อมของกลางเป็นบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์รวม 670 รายการ

สำหรับการจับกุมครั้งนี้ ชุดปฏิบัติการพิเศษอำเภอกระทุ่มแบน สืบทราบว่ามีผู้ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าในพื้นที่ฯ ซึ่งผู้จำหน่ายรายนี้คือ นายวรนาถ ต้นกันยา ซึ่งเคยถูกจับกุมในคดีจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 2567 จึงได้ส่งสายลับหาข่าว จนทราบเป็นที่แน่ชัดว่าบุคคลดังกล่าวยังคงลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าอยู่จริง แต่ได้ปรับวิธีการซื้อ-ขาย จากเดิมเปิดขายหน้าร้าน เปลี่ยนเป็นขายทางออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ ให้กับลูกค้าประจำแบบเฉพาะกลุ่มลับเท่านั้น พร้อมจัดโปรโมชั่นส่งฟรีตลอด 24 ชั่วโมง ให้กับลูกค้าตามจุดนัดพบที่ตกลงกันไว้ ดังนั้นทางชุดปฏิบัติการพิเศษฯ จึงได้วางแผนล่อซื้อจับกุม

กระทั่งเมื่อถึงเวลานัดหมาย ปรากฏว่า นายวรนาท ไม่ได้มาตามนัด แต่กลับพบนายวิสุทธิ์ ประสารเชื้อ ขับขี่รถจักรยานยนต์มาภายในบริเวณที่แจ้งไว้แทน โดยมุ่งตรงไปยังรถของสายลับ แล้วติดต่อซื้อขายบุหรี่ไฟฟ้ากัน ชุดปฏิบัติการพิเศษฯ ที่เฝ้าสังเกตการณ์อยู่จึงได้แสดงตัวเข้าจับกุมนายวิสุทธิ์ไว้ พร้อมกับตรวจค้นในตัวพบบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง จำนวน 5 ชิ้น จึงได้เก็บไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นได้นำตัวนายวิสุทธิ์ มาสอบปากคำรวมถึงตรวจสอบโทรศัพท์มือถือที่ใช้ในการสั่งซื้อบุหรี่ไฟฟ้าผ่านแอปพลิเคชันไลน์เพื่อนำมาจำหน่าย

สำหรับจากการขยายผลหาแหล่งจัดเก็บบุหรี่ไฟฟ้านั้น ทางด้านนายวิสุทธิ์ ให้การยอมรับว่าได้จัดเก็บไว้หลายแห่งด้วยกัน โดยแห่งแรกเป็นที่ร้านค้าแห่งหนึ่งภายใน ต.ตลาดกระทุ่มแบน ซึ่งเคยถูกจับกุมมาแล้ว โดยเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฯ ได้พบกับนายวรนาถ ต้นกันยา ออกมาแสดงตนเป็นเจ้าของร้าน จึงถูกควบคุมตัวไว้ จากการตรวจค้นภายในร้านพบบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง จำนวน 18 ชิ้น ต่อมาได้นำตัวนายวิสุทธิ์ เข้าตรวจค้นที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 2 ต.คลองมะเดื่อ พบบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง จำนวน 160 ชิ้น คอยล์ จำนวน 33 ชิ้น หัวเปลี่ยน จำนวน 152 ชิ้น หัวเปลี่ยน (กลม) จำนวน 5 ชิ้น เครื่องบุหรี่ไฟฟ้าแบบเปลี่ยนหัวได้ จำนวน 1 เครื่อง หัวบุหรี่ไฟฟ้าแบบเปลี่ยน จำนวน 7 ชิ้น และน้ำยาเติมบุหรี่ไฟฟ้า จำนวน 216 ขวด และยังพบบุหรี่ไฟฟ้าจัดเก็บไว้ในบ้านพักของนายวิสุทธิ์ อีกหนึ่งแห่ง โดยพบบุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้ง จำนวน 16 ชิ้น และหัวเปลี่ยน จำนวน 57 ชิ้น รวมของกลางที่ตรวจพบทั้งหมดรวมทั้งสิ้น 670 ชิ้น

เจ้าพนักงานชุดจับกุม จึงทำการตรวจยึดไว้ และแจ้งข้อกล่าวหาให้ทราบว่า “ช่วยซ่อนเร้น ช่วยจำหน่าย ช่วยพาเอาไปเสีย ซื้อ รับจำนำหรือรับไว้ โดยประการใดซึ่งของอันตนพึงรู้ว่าเป็นของอันเนื่องด้วยความผิดตามมาตรา 242 พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.2560 และให้บริการขายสินค้าบุหรี่ไฟฟ้าหรือตัวยาน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าอันเป็นความผิดฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคที่ 9/2558 ลง 28 ม.ค.2558 เรื่อง ห้ามขายหรือห้ามให้บริการสินค้า “บารากู่ บารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า หรือตัวยาบารากู่ น้ำยาสำหรับเติมบารากู่ไฟฟ้าหรือบุหรี่ไฟฟ้า” และได้นำตัวผู้กระทำความผิดทั้ง 2 ราย พร้อมของกลางทั้งหมด ส่งพนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ