สมุทรสาคร แม่รับศพลูกฮีโร่นักดับเพลิง เสียชีวิตในหน้าที่ ตั้งบำเพ็ญกุศลวัดกาหลง 3 วัน

แม่รับร่างฮีโร่ดับเพลิงเทศบาลนครสมุทรสาคร ที่ถูกไฟฟ้าแรงสูงช็อตจาก รพ.สมุทรสาคร หลังยื้อชีวิตไม่เป็นผล บำเพ็ญกุศลศพวัดกาหลง 3 วัน กำหนดพิธีฌาปนกิจ 17 ก.พ. 68 ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร เป็นประธานพิธีรดน้ำศพ บรรยากาศโศกเศร้า ทางด้านสำนักงานประกันสังคมจังหวัดสมุทรสาคร มอบเงินเยียวยาแก่ทายาทกว่า 1 ล้านบาท

จากเหตุการณ์เพลิงไหม้อาคารพาณิชย์ 6 ชั้น ของบริษัท ดับบลิว อีเล็คโทรนิคส์ จำกัด ริมถนนเอกชัย หมู่ 3 ต.บางน้ำจืด อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 12 ก.พ. 2568 โดยสองสามีภรรยาเจ้าของร้านเสียชีวิต และเจ้าหน้าที่ดับเพลิงของเทศบาลนครสมุทรสาคร ได้รับบาดเจ็บจากการปฏิบัติหน้าที่ฯ จำนวน 2 คน รายแรกคือนายสุริยา ศรเดช ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร ปัจจุบันอาการปลอดภัยแล้ว

ส่วนอีกราย คือ นายอัครนิธ์ บึงใส อายุ 35 ปี อาการสาหัสจากการถูกไฟฟ้าแรงสูงช็อต มีไฟลุกไหม้ศีรษะ และหมดสติ โดยเข้ารับการผ่าตัด แต่สุดท้ายแพทย์ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ เสียชีวิตเมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 13 ก.พ. 2568 ท่ามกลางความเสียใจของครอบครัวและเพื่อนร่วมงาน นอกจากนี้ นายอัครนิธ์ ยังได้บริจาคดวงตาให้กับสภากาชาดไทยอีกด้วย

เมื่อเวลา 09.00น. วันที่ 14 ก.พ. 2568 ที่สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลนครสมุทรสาคร นายโกเมน ปานดี อายุ 48 ปี พนักงานดับเพลิงของเทศบาลนครสมุทรสาคร เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงการเสียชีวิตของ นายอัครนิธ์ บึงใส หรือบูม ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานว่า ตนรู้สึกใจหาย ไม่น่าจะไปเร็วขนาดนี้ มันพูดไม่ออก ซึ่งอุปนิสัยนั้นช่วยเหลืองานดี เต็มที่กับงาน และเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงาน เป็นคนสู้งานไม่เกี่ยงงาน

ทางด้านนายคณฑี ธนิกกุล หัวหน้างานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเทศบาลนครสมุทรสาคร กล่าวว่า สำหรับตนและพนักงานงานป้องกันฯ ทุกคนมีความรู้สึกเสียใจกับการสูญเสียพนักงานคนนี้ไป ซึ่งทำงานมาประมาณ 8 ปี เป็นคนตั้งใจทำงาน ขยัน มีความรู้ความสามารถ เคยเป็นตัวแทนของเทศบาลฯ ไปประกวดเรื่องดับเพลิงจนได้รางวัลชนะเลิศมา พนักงานทุกคนรวมทั้งผู้บริหารของทางเทศบาลฯ มีความรู้สึกเสียใจกับส่วนตรงนี้ที่เกิดขึ้นมา เราทุกคนไม่อยากให้เกิดขึ้นมา แต่เมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้ว เราต้องทำงานให้ดีที่สุด เพื่อทดแทนกับสิ่งที่สูญเสียไป และต้องหาทางเยียวยาช่วยเหลือกับทางครอบครัวของเขา ตอนนี้ทางจังหวัดก็ได้เข้ามาช่วยในส่วนของตรงนี้ด้วยแล้ว

ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ศูนย์สันตินิรามัย โรงพยาบาลสมุทรสาคร และได้พบกับนางสุรัช บึงใส อายุ 59 ปี มารดาของผู้เสียชีวิตที่มารอรับศพไปบำเพ็ญกุศลฯ ว่าความรู้สึกของตนนั้นตนรู้สึกเสียใจมากเพราะว่านายอัครนิธ์ เป็นเสาหลักของครอบครัว อีกทั้งยังมีลูกเล็กอีก 3 คน เมื่อยังมีชีวิตอยู่ยังช่วยเหลือตนได้เพราะพ่อเขาเสียไปเมื่อปี 2566 พอนายอัครนิธ์เสียไปอีกคนแล้วทุกอย่างมันก็มืดมนไม่รู้จะทำยังไงได้

อยากถามเขาคือฮีโร่ไหม เขาคือฮีโร่ของแม่ เพราะว่าเขาทำดีที่สุดแล้ว และตอนนี้เขาก็ได้บริจาคดวงตาให้กับสภากาชาด ก็ภูมิใจในตัวลูก ภูมิใจมาก ๆ ชาติหน้าฉันใดก็ขอให้กลับมาเป็นลูกอีก ซึ่งตนอยากบอกลูกเป็นครั้งสุดท้ายว่าไม่ต้องห่วงแม่ ไม่ต้องห่วงลูก ก็ขอให้ไปสบาย ไปเจอพ่อ เจอภพภูมิที่ดี ซึ่งก่อนเสียชีวิตนายอัครนิธ์เคยพูดกับตนว่าอยากบวชตอนอายุ 35 ปี แต่ไม่คิดว่าจะเสียชีวิตก่อนวันที่ 26 มี.ค. ซึ่งจะมีอายุ 35 ปีเต็ม ส่วนศพนั้นจะนำไปบำเพ็ญกุศลที่วัดกาหลง ต.กาหลง อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และจะประกอบพิธีณาปนกิจศพในวันที่ 17 ก.พ. 2568 เวลา 17.00 น.  

จากนั้นเมื่อเวลา 16.00 น. วันเดียวกัน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้เป็นประธานในพิธีรดน้ำศพนายอัครนิธ์ บึงใส เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเทศบาลนครสมุทรสาคร ณ ศาลาวัดกาหลง ต.กาหลง อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร โดยมีพระเทพสาครมุนี ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 14 เจ้าอาวาสวัดเจษฎาราม (พระอารามหลวง) เป็นประธานสงฆ์ ในการนี้ก็มีแม่ของผู้เสียชีวิต ภรรยา บุตร-ธิดา ญาติพี่น้อง หัวหน้างานเทศบาลฯ และเพื่อน ๆ มาร่วมในพิธีกันเป็นจำนวนมาก ซึ่งบรรยากาศก็เป็นไปอย่างโศกเศร้า ต่างรู้สึกอาลัยต่อการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของฮีโร่นักดับเพลิงรายนี้

อีกทั้งขณะที่กำลังจะยกร่างผู้เสียชีวิตบรรจุในโลงศพนั้น ลูกสาววัย 2 ขวบเศษก็ตะโกนเรียกป๊ะป๋าตลอดเวลา สร้างความสะเทือนใจเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากลูกสาวไม่รับรู้ว่าพ่อได้จากไปอย่างสงบแล้ว ในการนี้ ทางครอบครัวได้มีการนำชุดดับเพลิงมาตั้งวางไว้หน้าหีบศพด้วย ซึ่งก็เป็นชุดเก่งที่นายอัครนิธ์ชอบใส่ออกปฏิบัติหน้าที่เป็นประจำ สำหรับนายอัครนิธ์ บึงใส หรือบูม ผู้เสียชีวิต เกิดเมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2533 ปัจจุบันเป็นพนักงานจ้างชั่วคราวสังกัดเทศบาลนครสมุทรสาคร มีบุตรทั้งหมด 3 คน มีพี่น้อง 4 คน โดยเป็นลูกคนที่ 3

ทางด้านสำนักงานประกันสังคมจังหวัดสมุทรสาคร ให้บริการเชิงรุกในการขอรับสิทธิประโยชน์ในระบบประกันสังคมให้แก่ทายาทของนายอัครนิธิ์ บึงใส ผู้เสียชีวิต โดยทายาทผู้เสียชีวิตจะได้รับสิทธิประโยชน์จากกองทุนเงินทดแทน ประกอบด้วย ค่าทดแทน 937,440 บาท และค่าทำศพ 50,000 บาท รวมเงินกองทุนเงินทดแทน จำนวน 987,440 บาท และกองทุนประกันสังคม ได้แก่ บำเหน็จชราภาพ (เฉพาะเงินต้น ยังไม่รวมดอกผล) 61,704.54 บาท รวมทั้ง 2 กองทุน เป็นเงินทั้งสิ้น 1,049,144.54 บาท

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *