ชุดปฏิบัติการพิเศษอำเภอกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร รวบเจ้าของบ่อปลาลักลอบค้ายาเสพติดได้ยาบ้า 4,874 เม็ด ไอซ์ 316.66 กรัม รวมมูลค่ากว่า 300,000 บาท
เมื่อเวลา 12.00 น. วันที่ 13 ก.พ. 2568 ภายใต้การอำนวยการของ นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นายวรณัฎฐ์ หนูรอต และ ร.ต.อ.เขตรัฐ ชาญศิลป์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร และนายบรรพต จันทรวงษ์ ปลัดจังหวัดสมุทรสาคร ได้มอบหมายให้ นายณัฐพล บุญทวี ปลัดอาวุโสอำเภอกระทุ่มแบน รักษาราชการแทนนายอำเภอกระทุ่มแบน พร้อมด้วยปลัดอำเภอ ประกอบด้วย ร.ต.นิติพัฒน์ ซื่อดี ว่าที่ ร.ต.พรชัย วนศาสตร์ นายนิทัศน์ ลิ้มศิริวัฒน์ และนายกิตติวุฒิ ฉัตรวคุณ นำเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฯ อำเภอกระทุ่มแบน บูรณาการกำลังร่วมกับตำรวจสืบสวน สภ.กระทุ่มแบน เข้าตรวจที่พักอาศัยลักษณะคล้ายแคมป์คนงานแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.อ้อมน้อย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ตามที่ได้รับการร้องเรียนว่ามีการลักลอบจำหน่ายยาเสพติดให้กับผู้ใช้แรงงาน
จากการเข้าตรวจค้นพบชายต้องสงสัย 2 คน จึงได้เข้าควบคุมตัวไว้ คนแรกทราบชื่อต่อมาคือ นายพงษ์นรินทร์ ทองมี อายุ 36 ปี เป็นชาว ต.บางน้ำจืด อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พบไอซ์อยู่ในตัวจำนวนหนึ่ง และจากการตรวจค้นภายในรถยนต์ที่นายพงษ์นรินทร์ขับมาจอดบริเวณดังกล่าว ยังพบยาบ้าซุกซ่อนอยู่อีก 4,874 เม็ด กับไอซ์รวมทั้งหมด 316.66 กรัม พร้อมเครื่องชั่งดิจิตอล และอาวุธปืนขนาด 11 มม. ที่ขึ้นลำกล้องไว้พร้อมยิงอีก 1 กระบอก
ส่วนอีกรายหนึ่งคือนายประวิช (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 53 ปี ชาว ต.อ้อมน้อย และเป็นเจ้าของที่พักอาศัย พบยาไอซ์อยู่ในตัวประมาณ 7 กรัม และยังพบตู้เซฟอีก 1 ใบ ทางเจ้าหน้าที่ฯ จึงได้นำตู้เซฟกลับมาเปิด ณ ที่ว่าการอำเภอกระทุ่มแบน แต่เนื่องจากนายประวิชบอกว่า จำรหัสไม่ได้ และหากุญแจไม่เจอ แต่ยินดีให้เจ้าหน้าที่เปิดดูทรัพย์สินด้านใน ซึ่งมีเพียงเงินสดที่เตรียมไว้จ่ายค่าบ้าน อาวุธปืนมีทะเบียน และพระเครื่องเท่านั้น ทางเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการฯ จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู นำเครื่องตัดถ่างเข้ามาทำการเปิดตู้เซฟ ใช้เวลาประมาณ 40 นาทีจึงสามารถงัดออกมาได้ และพบว่ามีทรัพย์ตามที่นายประวิชแจ้งไว้ได้แก่ เงินสด 122,000 บาท อาวุธปืนมีทะเบียน 2 กระบอก และพระเครื่องอีกจำนวนหนึ่ง ไม่พบสิ่งผิดกฎหมายใด ๆ ทั้งสิ้น
เบื้องต้นจากการสอบถามนายพงษ์นรินทร์ ทองมี ผู้ต้องหา ทีแรกไม่ยอมรับว่ามียาบ้าไว้เพื่อจำหน่าย บอกแต่ว่ายาบ้าและไอซ์ทั้งหมดที่พบนั้นมีไว้เพื่อเสพเองเท่านั้น ไม่ได้ขายแต่อย่างใด ซื้อมาเพื่อเสพแก้เครียดเพราะขาดทุนจากการทำบ่อปลา แต่พอถามไปถามมาก็ยอมรับว่า รับยาบ้ามาจากผู้ค้าที่เอามาส่งแถวพระราม 2 แล้วเอามาขายต่อให้กับผู้เสพราคาเม็ดละ 50 บาท ส่วนไอซ์กรัมละ 300 บาท ดังนั้นหากของกลางที่พบถูกขายออกไปก็จะมีมูลค่าราว 338,000 บาท ส่วนทางด้านของนายประวิช บอกแค่ว่าเงินสดที่พบในตู้เซฟเก็บไว้เพื่อเตรียมจะนำไปจ่ายค่าบ้าน ส่วนไอซ์ซื้อมาเพื่อเสพเท่านั้น
ซึ่งหลังจากเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฯ ได้ทำบันทึกการจับกุมแล้ว ก็ได้นำตัวพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โดยนายพงษ์นรินทร์ จะถูกดำเนินคดีโทษฐานมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า, ไอซ์) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายและจำหน่าย กับพกพาอาวุธปืนไปในทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตฯ ส่วนนายประวิช จะถูกดำเนินคดีข้อหาเสพยาเสพติด และจะต้องถูกส่งตัวเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาต่อไป
ขณะที่ นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีนโยบายมอบหมายให้ทุกอำเภอออกกวดขันจับกุมผู้กระทำผิดในพื้นที่ทั้งการก่อเหตุอาชญากรรม การใช้แรงงานผิดกฎหมาย และยาเสพติดนั้น ชุดปฏิบัติการพิเศษอำเภอกระทุ่มแบน ได้ออกตรวจค้นกลุ่มเป้าหมายตามที่ได้รับการร้องเรียน จนสามารถจับกุมผู้ลักลอบจำหน่ายยาเสพติดและผู้เสพยาเสพติดในพื้นที่ได้ ซึ่งการจับกุมในครั้งนี้ถือว่าเป็นรายใหญ่รายหนึ่งเพราะได้ทั้งยาบ้าและไอซ์จำนวนมาก
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ