“ผู้ว่าฯนริศ” สั่งฟันโรงงานเถื่อน ลักลอบผลิตน้ำยาซักผ้า-หลอด LED ไม่ได้มาตรฐาน พบเจ้าของเป็นทุนจีน

ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร นำทีมตรวจสถานประกอบการลักลอบผลิตน้ำยาซักผ้า – หลอดไฟ LED ไม่มีมาตรฐาน ย่าน ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน พบเป็นนายทุนจีนเช่าโรงงาน 2 อาคาร สั่งดำเนินคดีตามกฎหมาย ก่อนหน้านี้ชุดปฏิบัติการพิเศษอำเภอกระทุ่มแบน เข้าจับกุมแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย แถมปล่อยน้ำเสีย-กองขยะหน้าโรงงาน

เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 7 ก.พ. 2568 นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายบรรพต จันทรวงษ์ นายอำเภอกระทุ่มแบน พ.ต.อ.สร ซื่อตรงพานิช ผกก.สภ.กระทุ่มแบน นายพุทธิกรณ์ วิชัยดิษฐ อุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร นายอรุณ มาพิทักษ์ นายก อบต.ท่าไม้ รวมถึงสาธารณสุขอำเภอกระทุ่มแบน เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ชุดปฏิบัติการพิเศษอำเภอกระทุ่มแบน เจ้าหน้าที่กลุ่มงานอาหารและยา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร เจ้าหน้าที่จากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ มอก. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

เข้าตรวจสอบบริษัท ออโรร่า คลีนนิ่ง จำกัด ตั้งอยู่ที่ 327 หมู่ 4 ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร โดยสำแดงหลักฐานประกอบธุรกิจผลิต จำหน่าย นำเข้า ส่งออก ผลิตภัณฑ์ วัตถุดิบ สารเคมีทำความสะอาด ได้แก่ น้ำยาซักผ้า และน้ำยาปรับผ้านุ่ม แต่ปัจจุบันได้ให้นายทุนชาวจีนรายหนึ่งมาเช่าอาคาร 2 อาคาร ประกอบกิจการ 2 ประเภท แยกเป็นอาคารสำหรับการประกอบกิจการทำน้ำยาซักผ้าและน้ำยาปรับผ้านุ่ม มีเครื่องจักรทั้งหมด 112 แรงม้า เข้าข่ายเป็นโรงงานอุตสาหกรรม

ทางเจ้าหน้าที่ของสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดฯ จึงได้ทำการสั่งให้ระงับการกระทำที่ฝ่าฝืน พร้อมทั้งดำเนินคดีเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมาย ขณะที่ทางสาธารณสุขอำเภอกระทุ่มแบน ได้อายัดของกลางเป็นผลิตภัณฑ์น้ำยาซักผ้า พร้อมภาชนะที่ใช้บรรจุมีทั้งแบบแกลอน ถุงแบบฝาล็อค และกล่องกระดาษที่ติดฉลากเป็นที่เรียบร้อย รวมทั้งสิ้น 8,000 ชิ้น และทางด้านเจ้าหน้าที่กลุ่มงานอาหารและยาฯ ตรวจแล้วไม่พบการขออนุญาตเพื่อผลิตน้ำยาซักผ้า รวมถึงสถานที่ขออนุญาตผลิต กับสถานที่ผลิตจริงไม่ตรงกันอีกด้วย

ส่วนอีกอาคารหนึ่งเป็นการประกอบหลอดไฟแบบ LED โดยไม่ได้ขออนุญาตกับทาง มอก. จึงได้อายัดของกลาง และร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน อีกทั้งยังมีการตรวจพบเครื่องจักรประมาณ 20 แรงม้า แม้ไม่เข้าข่ายเป็นโรงงานตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 และที่แก้ไขเพิ่มเติม แต่เข้าข่ายเป็นการประกอบกิจการที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม ทาง อบต.ท่าไม้ จึงได้มีการแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ฝ่าฝืนกระทำผิดเช่นเดียวกัน ส่วนเรื่องของการขออนุญาตก่อสร้างอาคารเพื่อใช้ประกอบกิจการนั้นอยู่ระหว่างการตรวจสอบ เนื่องจากสถานประกอบการแห่งนี้ตั้งขึ้นตั้งแต่ปี 2531 จึงต้องมีการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง

สำหรับการเข้าตรวจโรงงานแห่งนี้ สืบเนื่องจากวานนี้ (6 ก.พ.) ชุดปฏิบัติการพิเศษอำเภอกระทุ่มแบน นำโดย นายบรรพต จันทรวงษ์ นายอำเภอกกระทุ่มแบน บูรณาการความร่วมกับ อบต.ท่าไม้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบสถานประกอบการดังกล่าวตามที่ประชาชนได้ร้องเรียน โดยพบว่ามีการปล่อยน้ำเสียออกมา และกองขยะจำนวนมากบริเวณหน้าโรงงาน รวมถึงการจ้างแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย จำนวน 13 คน จากทั้งหมด 23 คน อีกทั้งยังพบด้วยว่ามีการลักลอบประกอบกิจการทำน้ำยาซักผ้า และน้ำยาปรับผ้านุ่ม กับ ลักลอบประกอบหลอดไฟ LED เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้มาตรฐาน มอก. อีกด้วย จึงได้ตรวจยึดและอายัดสิ่งที่ตรวจพบทั้งหมดไว้เป็นของกลาง เพื่อรอการตรวจสอบอย่างละเอียดจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า สำหรับการตรวจสอบในเบื้องต้น พบว่าน้ำยาซักผ้าเป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้รับอนุญาตจาก อย. จึงได้สั่งการให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาครไปดำเนินการทางกฎหมาย ส่วนหลอดไฟ LED ก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่ไม่มี มอก. และบางส่วนยังมีการใช้เครื่องหมาย มอก.ปลอมอีกด้วย ซึ่งเป็นความผิดทางกฎหมายที่สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร กับ มอก. ต้องร้องทุกข์กล่าวโทษดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด เพราะผลิตภัณฑ์เหล่านี้ถ้าไม่ได้มาตรฐาน เมื่อนำไปใช้งานก็จะเกิดความไม่ปลอดภัย โดยเฉพาะหลอดไฟถือเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าอันตรายที่อยู่ใกล้ชิดประชาชนเป็นอย่างมาก

นอกจากนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ยังได้สั่งกำชับ ผกก.สภ.กระทุ่มแบน ในเรื่องของการดำเนินคดีกับแรงงานต่างด้าวที่ทำงานอย่างผิดกฎหมาย รวมถึงให้ตรวจสอบบุคคลที่รับอ้างเป็นเจ้าของสถานประกอบการทั้ง 2 อาคาร ซึ่งพบว่าเป็นชาวจีน ก็จะต้องมีการตรวจสอบเอกสารการเดินทางเข้ามา และการขออนุญาตประกอบกิจการในประเทศไทย รวมถึงยังต้องประสานกับทางกรมสรรพากร เข้าตรวจสอบการเสียภาษีนำเข้าชิ้นส่วนอุปกรณ์หลอดไฟ ที่ทางเจ้าของและผู้ดูแลอ้างว่านำเข้ามาจากประเทศจีนเป็นชิ้นๆ เพื่อนำมาประกอบในประเทศไทยอีกด้วย และทาง อบต.ท่าไม้ จะต้องตรวจสอบเรื่องของ มลพิษ สิ่งแวดล้อม และการขออนุญาตในส่วนต่างๆ ตามกฎหมายท้องถิ่น ซึ่งทุกหน่วยงานจะต้องตรวจสอบอย่างละเอียดหากพบความผิดฐานใดบ้างก็ต้องดำเนินคดีในทุกกรณี

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *