นอภ.กระทุ่มแบน นำชุดล็อกเป้า โชห่วยเมียนมาแย่งอาชีพคนไทย ขายสารพัดสินค้า-ยา-เวชสำอาง

นอภ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร นำทีมเปิดปฏิบัติการ “Knock Knock ล็อกต่างด้าวแย่งอาชีพคนไทย” จับกุม 2 แรงงานต่างด้าวขายสินค้าบริโภค ยา เวชสำอาง ในโชห่วยย่าน ต.คลองมะเดื่อ มีคนไทยรับเป็นเจ้าของร้าน ด้านสาธารณสุขอำเภอกระทุ่มแบน พบฉลากสินค้าเป็นภาษาพม่า ไม่มี อย. และเป็นสมุนไพร จ่อเอาผิดตามกฎหมายเพิ่ม

เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 3 ก.พ. 2568 นายบรรพต จันทรวงษ์ นายอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร นำทีมชุดปฏิบัติการพิเศษอำเภอกระทุ่มแบน ประกอบด้วย นายณัฐพล บุญทวี ปลัดอาวุโสอำเภอกระทุ่มแบน พร้อมด้วยปลัดอำเภอ ประกอบด้วย ร.ต.นิติพัฒน์ ซื่อดี ว่าที่ ร.ต.พรชัย วนศาสตร์ นายนิทัศน์ ลิ้มศิริวัฒน์ นายกิตติวุฒิ ฉัตรวคุณ ร่วมด้วย นายฐิติวัชร์ วารีรัตนภากร สาธารณสุขอำเภอกระทุ่มแบน เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษอำเภอกระทุ่มแบน  และเจ้าหน้าที่ อส. ร่วมเปิดปฏิบัติการ “Knock Knock ล็อกต่างด้าวแย่งอาชีพคนไทย”

โดยเข้าตรวจค้นอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น ริมถนนเศรษฐกิจ 1 (ตรงข้ามปั๊มน้ำมันพีที) หมู่ 9 ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร หน้าร้านเปิดเป็นร้านขายอาหารตามสั่ง ส่วนภายในร้านขายของโชห่วยมีสินค้าบริโภค ยา และเวชสำอางอยู่เป็นจำนวนมาก ขณะเข้าตรวจค้นเจ้าหน้าที่ฯ พบคนขายของเป็นแรงงานต่างด้าว 2 คน ชายกับหญิง จึงควบคุมตัวไว้ และยังมีลูกค้าที่เข้ามาซื้อของภายในร้านอีก 3 คน จากการตรวจสอบลูกค้า 2 คนมีบัตรอนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จึงได้กันตัวไว้เป็นพยาน ส่วนอีกคนถือบัตรหมดอายุ จึงได้ควบคุมตัวส่งให้ทางสำนักงานจัดหางานจังหวัดสมุทรสาคร และตำรวจ ตม.จว.สมุทรสาคร ไปตรวจสอบก่อนที่จะดำเนินคดีตามกฎหมาย

ต่อมาขณะที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการพิเศษฯ กำลังตรวจสอบเอกสาร และสินค้าบริโภค ยา และเวชสำอางภายในร้านนั้น นางมินตรา (ขอสงวนนามสกุล) ได้เข้าพบและแสดงตนว่าเป็นเจ้าของร้านดังกล่าว แต่ออกไปทำธุระข้างนอก จึงให้ลูกจ้างขายของแทน โดยเพิ่งจะกลับเข้ามา ส่วนแรงงานต่างด้าวที่พบในร้านว่าเป็นคนขายของนั้น ก็เป็นลูกจ้างของตนทั้งสิ้น ทั้งสองคนมีเอกสารขออนุญาตทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมกับนำมาสำแดงให้เจ้าหน้าที่ฯ ตรวจสอบ

ทางด้านนายอำเภอกระทุ่มแบน จึงได้ชี้แจงให้นางมินตราทราบว่า แรงงานต่างด้าวทั้ง 2 คน ที่เป็นลูกจ้างของทางร้านนั้นแม้จะมีเอกสารขออนุญาตทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย แต่บุคคลทั้งสองทำงานผิดประเภท และยังเป็นงานที่ทางราชการไม่สามารถอนุญาตให้แรงงานต่างด้าวทำได้ นอกจากนี้ ขณะเข้าตรวจค้นก็ไม่มีนายจ้างที่เป็นคนไทยอยู่ภายในร้าน มีเพียงแรงงานต่างด้าวทั้ง 2 คนขายของอยู่ จึงเข้าข่ายการทำงานในลักษณะแย่งอาชีพคนไทย ดังนั้น แม้จะมีเอกสารมาสำแดงภายหลังว่าเป็นเจ้าของร้านจริง และแรงงานต่างด้าวทั้ง 2 คนเป็นลูกจ้างจริง แต่การปล่อยให้ลูกจ้างค้าขายโดยไม่มีนายจ้างอยู่ด้วย ก็ถือว่ามีการกระทำความผิดตามกฎหมายเกิดขึ้นแล้ว จึงต้องควบคุมตัวทั้งนายจ้างคนไทยและลูกจ้างแรงงานต่างด้าวไปสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนที่จะดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในทุกข้อกล่าวหา

นอกจากนี้ จากการตรวจสินค้าภายในร้าน ส่วนใหญ่เป็นสินค้าบริโภค ยา และเวชสำอาง มีหลายชนิดที่ฉลากเป็นภาษาพม่า ไม่มีเครื่องหมาย อย. หรือไม่แสดงฉลากภาษาไทย รวมถึงสินค้าเหล่านี้ไม่สามารถขายได้เองอีกด้วย และบางประเภทเป็นยาที่ส่วนผสมของสมุนไพร จึงต้องถูกตั้งข้อกล่าวหากระทำความผิดฐานละเมิด พ.ร.บ.ยา พ.ศ.2510, พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 และ พ.ร.บ.ผลิตภัณฑ์สมุนไพร พ.ศ.2562 ซึ่งมีความผิดทั้งจำและปรับ ตามแต่ละความผิดที่ตรวจพบ ซึ่งทางด้านของสาธารณสุขอำเภอกระทุ่มแบน ได้มีการรวบรวมสินค้าทั้งหมดไปตรวจสอบ ณ ที่ว่าการอำเภอกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาต่อไป

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *