
น.1 สั่งรองนพศิลป์ นำทีมสืบนครบาล ล้อมจับแก๊งค้าอาวุธสงครามรายใหญ่ มาพักของรอส่งที่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ยึดของกลางเพียบ
เมื่อเวลา 21.30 น. วันที่ 24 ม.ค. 2568 พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วย พล.ต.ต.โชติวัฒน์ เหลืองวิลัย ผบก.สส.บช.น. พ.ต.อ.ธีระเดช อธิภัคกุล รอง ผบก. รักษาราชการแทน ผบก.ภ.จว.สมุทรสาคร พ.ต.อ.สร ซื่อตรงพานิช ผกก.สภ.กระทุ่มแบน นายณัฐพล บุญทวี ปลัดอาวุโสอำเภอกระทุ่มแบน เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบนครบาล สภ.กระทุ่มแบน และฝ่ายปกครองอำเภอกระทุ่มแบน ร่วมแถลงผลการจับกุม นายภัทรกร คุ้มแว่น อายุ 28 ปี ในข้อหา “มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืน ที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตให้ได้ไว้ในความครอบครองโดยผิดกฎหมาย” ภายในซอยสันติปรีชา หมู่ 2 ต.ดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร
พร้อมกับของกลาง รถยนต์เอสยูวี ยี่ห้ออีซูซุ สีขาว ทะเบียน กล 2840 ฉะเชิงเทรา นอกจากนี้ยังมีรถยนต์ยี่ห้อนิสสัน อัลเมร่า สีขาว ทะเบียน งข 4109 ชลบุรี จอดทิ้งอยู่ด้านหน้ารถของนายภัทรกร อีก 1 คัน ส่วนคนขับหลบหนีไปได้ ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกติดตามจับกุมตัว จากการเปิดท้ายกระโปรงหลังรถยนต์สีขาวที่จอดทิ้งไว้ พบของกลางเป็นอาวุธสงครามพร้อมเครื่องกระสุนปืนจำนวนมากถูกห่อปิดผนึกมาอย่างดี ประกอบด้วย เครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 จำนวน 1 กระบอก ปืนอาก้าพับฐาน จำนวน 1 กระบอก ปืนอาก้าไม่พับฐาน จำนวน 5 กระบอก แม็กกาซีน จำนวน 17 อัน กระสุนปืนขนาด 7.62 มม. จำนวน 11 กล่อง กล่องละ 720 นัด รวมทั้งสิ้นเกือบ 8,000 นัด และกระสุนปืนกล เอ็ม 60 อีกกว่า 500 นัด

พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. เปิดเผยว่า ตามนโยบายของรัฐบาลและ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ได้กำชับสั่งการให้ระดมกวาดล้างผู้มีอิทธิพลและมือปืนรับจ้าง รวมทั้งกวาดล้างผู้ที่ลักลอบค้าอาวุธปืน อาวุธสงคราม และเครื่องกระสุนปืน กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) นำโดย พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. จึงสั่งการให้สืบสวนหาข่าวกลุ่มผู้ลักลอบขายปืนเถื่อนรายใหญ่ เพื่อป้องกันและปราบปรามผู้กระทำความผิดในพื้นที่ จากการสืบทราบของตำรวจสืบนครบาล พบว่าแก๊งของผู้ต้องหามีลักษณะก่อเหตุลักลอบนำเข้าอาวุธปืนและอาวุธสงคราม ก่อนหน้านี้ทางสืบนครบาลเคยเข้าค้นบ้านพักของผู้ต้องหาแต่ไม่พบของกลาง ซึ่งผู้ต้องหาเคยมีประวัติครอบครองอาวุธปืนผิดกฎหมาย พื้นที่ สภ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี จึงได้ติดตามสืบสวนแก๊งค้าอาวุธปืนกลุ่มนี้
กระทั่งทางสืบนครบาลทราบว่าจะมีการลักลอบจำหน่ายอาวุธสงคราม และนำมาพักไว้ภายในพื้นที่ ต.ดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร จึงได้มีการติดตามสะกดรอยจนมาถึงบริเวณจุดดังกล่าว ปรากฏว่ารถยนต์สีขาว ซึ่งเป็นรถที่นำอาวุธสงครามมาส่งให้นั้น ทางคนขับกับเพื่อนหลบหนีไปได้ แต่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้ไล่ตามจับอยู่ ส่วนรถยนต์เอสยูวีอีกคันที่ขับตามมาด้านหลัง ซึ่งเป็นของผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้นั้น จะทำหน้าที่สเกาท์ และจากการตรวจค้นพบว่าอาวุธสงครามทั้งหมด ได้แก่ เครื่องยิงลูกระเบิด เอ็ม 79 และปืนอาก้า มีการทำสีใหม่ ใส่ถุงซีลมาอย่างดี สภาพใช้งานได้จริง ก็จะได้มีการขยายผลผู้ต้องหาว่าไปรับของมาจากใคร และใครเป็นผู้รับซื้อต่อ แต่เบื้องต้นทราบได้ว่าไปรับมาจากในเขต อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว แล้วลักลอบนำมาถึงพื้นที่ จ.สมุทรสาคร

พล.ต.ต.นพศิลป์ กล่าวอีกว่า ปฏิบัติการครั้งนี้ถือว่าได้มีการระงับยับยั้งได้อย่างรวดเร็ว เพราะถ้าหากอาวุธปืนเหล่านี้หลุดออกไปถึงมือคนร้ายที่รับช่วงต่อ เกรงว่าอาจจะเกิดอันตรายแก่พี่น้องประชาชนได้ นับเป็นความสำเร็จของทีมงานสืบสวน บช.น ที่ประสานงานกับทางตำรวจ ภ.จว.สมุทรสาคร และฝ่ายปกครองฯ ที่สามารถจับกุมตัวผู้ต้องหาและของกลางเหล่านี้ไว้ได้ แต่อย่างไรก็ตามจะต้องขยายผลต่อไป รวมถึงการติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่หลบหนีนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมได้นั้น ได้ให้การยอมรับว่าตนเองเป็นคนที่ช่วยเหลือและรู้เห็นการกระทำทั้งหมด โดยวางแผนเมื่อตอนเที่ยงของวันดังกล่าว (24 ม.ค.) มีการนัดพบกับผู้ต้องหาอีกคนที่กำลังหลบหนีอยู่ จากนั้นก็ไปรับของทั้งหมดมาจากอรัญประเทศ และยังบอกอีกว่าเคยทำแบบนี้มาแล้ว 2-3 ครั้ง แต่เป็นเรื่องของบุหรี่เถื่อน ครั้งนี้ร่วมกันนำของมาเป็นกระสอบ แล้วมารู้ทีหลังว่าเป็นอาวุธปืน โดยได้ค่าจ้างครั้งละ 20,000 บาท ส่วนการซื้อขายเป็นแบบการติดต่อกันทางโทรศัพท์ ราคาขายอยู่ที่กระบอกละ 40,000 – 60,000 บาท และของที่นำมาครั้งนี้ก็เพื่อที่จะนำมาพักไว้ก่อนในพื้นที่ อ.กระทุ่มแบน โดยก่อนที่จะถูกจับกุมนั้น น่าจะเป็นการขับรถวนหาที่พักชั่วคราว ก่อนที่จะนัดส่งมอบของต่อให้กับผู้ซื้อ แต่กลับมาถูกจับกุมตัวได้เสียก่อน
สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ