ผู้รอดชีวิตรถทัวร์พลิกคว่ำกลับถึงบ้านแล้ว – “กู้ภัยศรีสมุทร” จบภารกิจนำ 5 ร่างกลับภูมิลำเนา

ผู้รอดชีวิตบางส่วนจากเหตุการณ์รถทัวร์พลิกคว่ำที่ จ.สุราษฎร์ธานี จำนวน 11 คน เดินทางกลับสู่อ้อมกอดครอบครัวแล้ว ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร พร้อมคณะร่วมรอต้อนรับ ขณะที่มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร นำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 5 ราย กลับคืนสู่ภูมิลำเนา เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา

จากกรณีรถทัวร์เช่าเหมาจาก จ.สมุทรสาคร เดินทางท่องเที่ยวที่ อ.เบตง จ.ยะลา แต่ขณะเดินทางกลับรถเกิดเสียหลักตกร่องกลางถนนพุ่งชนต้นไม้ บนถนนสาย 41 กม.129+700 ฝั่งขาขึ้นกรุงเทพฯ หมู่ 1 ต.ป่าเว อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เหตุเกิดเมื่อเวลา 19.30 น. ของวันที่ 1 ม.ค. 2568 ทำให้มีผู้เสียชีวิต 5 ราย และบาดเจ็บ 30 ราย ผู้โดยสารส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ ต.ท่าฉลอม และ ต.บางหญ้าแพรก อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร นั้น

ความคืบหน้าของเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อเวลา 22.45 น. วันที่ 2 ม.ค. 2568 ได้มีผู้ที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ และบาดเจ็บเล็กน้อยจากอุบัติเหตุดังกล่าว รวม 11 คน เดินทางด้วยรถมินิบัสที่ทางจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยสำนักงานขนส่งจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้จัดเตรียมไว้ให้เพื่อกลับภูมิลำเนา ออกเดินทางจาก อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เป็นเวลากว่า 9 ชม. มาถึงที่หมายอย่างปลอดภัย ณ บริเวณลานจอดรถหน้าอุทยานพระโพธิสัตว์กวนอิมท่าฉลอม วัดสุทธิวาตวาราม (วัดช่องลม) ต.ท่าฉลอม อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร

โดยมี นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย ร.ต.ประพันธ์ ถึกสกุล นายอำเภอเมืองสมุทรสาคร นายนิคม มากรุ่งแจ้ง สมาชิกวุฒิสภา นายณัฐพงษ์ สุมโนธรรม สส.สมุทรสาคร พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ นายกเทศมนตรีนครสมุทรสาคร ตลอดจนผู้แทนจากภาคส่วนต่าง ๆ ครอบครัวและมิตรสหายของผู้รอดชีวิตทั้ง 11 คน ร่วมให้การต้อนรับ ก่อนจะแยกย้ายกันกลับไปพักที่บ้าน

ต่อมาเมื่อเวลา 06.15 น. วันที่ 3 ม.ค. 2568 ขบวนรถกู้ภัยพร้อมเจ้าหน้าที่ฯ ของมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร (กู้ภัยศรีสมุทร) จำนวน 4 คัน ได้เคลื่อนย้ายร่างผู้เสียชีวิต 4 ราย กลับมาถึง จ.สมุทรสาคร เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วย นางณชนก สมร่าง หรือ เจ้น้อยหอยทอดท่าฉลอม และนายสุนทร พรหมนิตย์ (ไต๋โก๋น) ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ ณ วัดสุทธิวาตวราราม (วัดช่องลม) ต.ท่าฉลอม อ.เมืองฯ ส่วนร่างของนายสุธรรม โต้วสี กับ นางสุดาวดี โต้วสี ซึ่งผู้เสียชีวิตทั้งสองเป็นพี่น้องกัน ตั้งบำเพ็ญกุศลศพ ณ วัดบางหญ้าแพรก ต.บางหญ้าแพรก อ.เมืองฯ ขณะที่รถกู้ภัยของมูลนิธิฯ อีก 1 คัน ได้เคลื่อนย้ายร่างของ น.ส.นภัสนันท์ พันธ์ขะวงษ์ ไปยังวัดวังรอ ต.มหากร อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ เพื่อประกอบพิธีทางศาสนาตามความประสงค์ของญาติ

สำหรับภารกิจนำร่างผู้เสียชีวิตกลับภูมิลำเนาของมูลนิธิการกุศลสมุทรสาครนั้น เริ่มต้นเมื่อวานนี้ (2 ม.ค.) นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมปล่อยขบวนรถกู้ภัยของมูลนิธิฯ จำนวน 5 คัน ออกจากหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร (หลังเก่า) ตั้งแต่เวลา 13.00 น. จนไปถึงที่มูลนิธิกุศลศรัทธาสุราษฎร์ธานีในช่วงค่ำ โดยมีนายธีรุตม์ ศุภวิบูลย์ผล ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี พร้อมเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง และญาติของผู้เสียชีวิตที่เดินทางมารับศพ ได้ร่วมกันประกอบพิธียืนไว้อาลัย ก่อนนำร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดขึ้นรถ และปล่อยขบวนเดินทางกลับภูมิลำเนา เมื่อเวลา 22.20 น. ของวันเดียวกัน จนกระทั่งขบวนรถกู้ภัยของมูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร 4 คัน กลับมาถึง จ.สมุทรสาคร รวมระยะทางไป-กลับกว่า 1,300 กม. ใช้เวลาเดินทาง 15 ชม. ขณะที่รถกู้ภัยของมูลนิธิฯ อีก 1 คัน ได้แยกทางนำร่างของผู้เสียชีวิตอีก 1 คน ไปส่งที่ จ.นครสวรรค์

นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เปิดเผยว่า ต้องขอขอบคุณทางเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิการกุศลสมุทรสาครทุกคน ที่ได้ร่วมมือร่วมแรงกันเสียสละทำหน้าที่รับส่งศพผู้เสียชีวิต และเดินทางกลับมาอย่างปลอดภัย ส่วนผู้บาดเจ็บที่ยังคงรักษาตัวอยู่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี นั้น หากแพทย์ให้ออกจากโรงพยาบาลได้ ทางจังหวัดสมุทรสาครก็พร้อมที่จะจัดส่งรถไปรับกลับมา แต่ในกรณีที่เป็นผู้ป่วยหนักก็จะต้องได้รับอนุญาตจากทางแพทย์ของโรงพยาบาลที่ทำการรักษาก่อน

ซึ่งในเรื่องนี้ตนได้มอบหมายให้นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร เป็นผู้ติดต่อประสานงานและติดตามอาการของผู้บาดเจ็บทุกคนอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ทางญาติผู้บาดเจ็บ หากต้องการประสานความช่วยเหลือในด้านใดที่เกี่ยวกับผู้บาดเจ็บ ก็สามารถติดต่อได้ที่นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสมุทรสาคร หรือแจ้งมายังปลัดอาวุโสอำเภอเมืองสมุทรสาคร โดยทุกชีวิตจะต้องได้รับการดูแลอย่างดีที่สุดและต้องเดินทางกลับมาบ้านอย่างปลอดภัย

สาครออนไลน์ เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *