ระดับน้ำท่าจีนยังน่าห่วง! สูงขึ้นจากระดับน้ำทะเลปานกลางกว่า 3 ม. ด้วยอิทธิพลของน้ำทะเลหนุน ปะทะน้ำที่ผันจากทุ่งเจ้าพระยาตอนล่าง ซ้ำร้ายคันดินกั้นแม่น้ำทรุดตัว ทำสวนกล้วยไม้หนองนกไข่ – บางยาง ได้รับผลกระทบหนัก
เมื่อวันที่ 6 ธ.ค. 2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อิทธิพลจากน้ำทะเลหนุนสูงสุดวันนี้ โดยสูงกว่าที่ระดับน้ำทะเลปานกลาง 3 เมตรกว่า ประกอบกับการผันน้ำใน 12 ทุ่งเจ้าพระยาตอนล่างที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาโดยกรมชลประทาน ซึ่งผันลงมาทางแม่น้ำท่าจีนเพื่อให้ไหลอออกสู่ทะเลได้เร็วยิ่งขึ้นนั้น ส่งผลทำให้เกิดภาวะน้ำในแม่น้ำท่าจีนตอนล่างบริเวณพื้นที่ตำบล ท่าเสา ท่าไม้ หนองนกไข่ และบางยาง ของ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร เกิดการยกตัวสูงขึ้นมากกว่าปกติ
อีกทั้งเกิดเหตุการณ์คันดินริมแม่น้ำท่าจีนบางช่วงของพื้นที่หมู่ 3 ต.บางยาง เกิดพังลง จึงเป็นเหตุทำให้น้ำในแม่น้ำท่าจีนไหลเข้าท่วมสวนกล้วยไม้ที่อยู่ติดกับแม่น้ำ ในพื้นที่หมู่ 3 ต.บางยาง และหมู่ 2 ต.หนองนกไข่ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกันได้รับความเสียหายรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 50 ไร่ นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ทำการเกษตรอื่นๆ เช่น สวนมะนาว สวนฝรั่ง และสวนมะพร้าว ก็ได้รับผลกระทบจากน้ำทะลักเข้าท่วมเช่นเดียวกัน สร้างความเสียหายเป็นจำนวนมาก
นางชูศรี พรหมประทาน อายุ 64 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1 หมู่ 2 ต.หนองนกไข่ อ.กระทุ่มแบน เจ้าของสวนกล้วยไม้บนเนื้อที่กว่า 8 ไร่ มีต้นกล้วยไม้อยู่ราวๆ 150,000 ต้น บอกเล่าว่า เมื่อช่วงสายของวันนี้ (6 ธ.ค.) เวลาประมาณ 10.00 น. ได้เกิดภาวะน้ำในแม่น้ำท่าจีนยกตัวสูงขึ้นมากแล้วก็ไหลทะลักเข้ามาท่วมสวนกล้วยไม้อย่างรวดเร็ว จนไม่สามารถป้องกันอะไรได้ ซึ่งสาเหตุนั้นก็มาจากคันดินริมแม่น้ำท่าจีนที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก เกิดการทรุดตัวและพังลง อีกทั้งวันนี้ระดับน้ำยังสูงมากกว่าปกติอีกด้วย ทั้งนี้ตนก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อนตั้งแต่เกิดจนอายุ 64 ปี ซึ่งในปี 2554 ที่มีเหตุการณ์น้ำท่วมครั้งใหญ่แต่ก็ไม่เคยเข้าท่วมสวนเกษตรในพื้นที่ทั้ง 2 ตำบลแบบนี้เลย
ส่วนการแก้ปัญหานั้น คือการนำกระสอบทรายมาทำเป็นคันกั้นน้ำก่อน จากนั้นก็นำท่อสูบน้ำมาสูบน้ำออกจากสวนให้ได้เร็วที่สุด โดยคาดการณ์ว่าหากคืนนี้สามารถสูบน้ำออกจากสวนได้ทัน กล้วยไม้ที่ปลูกไว้ทั้งหมดก็จะรอดตาย แต่ถ้าสูบออกได้ไม่ทัน รากของกล้วยไม้ต้องแช่อยู่ในน้ำทั้งคืน ก็จะส่งผลทำให้กล้วยไม้เกิดการเฉาและตายลงได้ในที่สุด
นางชูศรี ยังบอกอีกว่า คันดินริมแม่น้ำท่าจีนนั้น ในรอบปีนี้เคยพังมาแล้วถึง 3 ครั้ง โดย 2 ครั้งแรกยังไม่สร้างความเดือดร้อนอะไร แต่ครั้งที่ 3 นี้ พังลงแล้วยังมีน้ำสูงมากกว่าปกติ จึงทำให้น้ำไหลเข้ามาท่วมสวนกล้วยไม้หลายแปลง และสวนผลไม้อีกจำนวนมาก ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนไปตามๆ กัน ซึ่งชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบนั้น ก็อยากจะวอนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและมีงบประมาณเพียงพอ มาดำเนินการช่วยสร้างเขื่อนปูนที่มั่นคงแข็งแรงและถาวร เป็นการป้องกันน้ำในแม่น้ำท่าจีนเอ่อล้นเข้าท่วมสวนกล้วยไม้และสวนเกษตรให้แก่ประชาชนในพื้นที่นี้
สำหรับการคาดการณ์สถานการณ์น้ำทะเล โดยกรมอุทกศาสตร์ในวันพรุ่งนี้ (7 ธ.ค.) เวลาประมาณ 09.16 น. จะมีน้ำทะเลขึ้นสูงเหนือระดับน้ำทะเลที่ 3.58 เมตร และสภาพน้ำทะเลหนุนสูงกว่า 3 เมตรนี้จะยังคงมีต่อไปอีกจนถึงสิ้นปีนี้
ข่าวโดย ณัฏฐนันท์ ศิริสันติวรกุล / เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการสาครออนไลน์