นายอำเภอกระทุ่มแบน ลุยตรวจโรงงานต้องสงสัยลักลอบปล่อยน้ำเสีย ทำคลองเกาะโพธิ์เน่านานกว่า 10 ปี
เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 2560 นายวุฒิพงษ์ สุภัควนิช นายอำเภอกระทุ่มแบน พร้อมด้วย นายวิชัย แตงเอี่ยม นายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลดอนไก่ดี นายนิวัฒน์ ขวัญบุญ นายกเทศมนตรีเมืองกระทุ่มแบน นายชาญคงกิจ จันทร์เกษม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าเสา อ.กระทุ่มแบน ผู้แทนจากมณฑลทหารบกที่ 16 (ราชบุรี) ตลอดจนเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขและตัวแทนจากอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ได้เข้าตรวจโรงงานลิ่วสัมฤทธิ์ ต.ตลาดกระทุ่มแบน อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นโรงงานที่ชาวบ้านสงสัยว่า จะมีการลักลอบปล่อยน้ำเสียออกมาตามท่อระบายน้ำ จนส่งผลทำให้น้ำในคลองเกาะโพธิ์เกิดการเน่าเสียและส่งกลิ่นเหม็นมานานกว่า 10 ปี
ทั้งนี้ ก่อนที่นายอำเภอกระทุ่มแบนจะนำคณะเข้าตรวจสอบโรงงานดังกล่าวนั้น ทางชาวบ้านและนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลดอนไก่ดี ได้ช่วยกันนำกระสอบทรายจำนวนมาก พร้อมกับอุปกรณ์อื่นๆ มาวางรอที่บริเวณริมคลองเกาะโพธิ์ เพื่อเตรียมก่อทำนบปิดกั้นน้ำในคลองชั่วคราว เพื่อไม่ให้น้ำเสียไหลลงไปยังพื้นที่ทำเกษตรกรรม และบ้านเรือนที่ประชาชนกว่า 30 หลังคาเรือนตลอดแนวคลองเกาะโพธิ์อาศัยอยู่ แต่ทางด้านของนายอำเภอกระทุ่มแบนก็ได้ยับยั้งการปิดคลองไว้ก่อน โดยขอเข้าตรวจสอบให้เป็นที่ชัดเจน และหาแนวทางอื่นเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะหวั่นว่าหากทำการปิดคลองจะส่งผลทำให้ชาวบ้านที่ต้องใช้น้ำเหนือแนวกระสอบทรายได้รับผลกระทบไปด้วย
สำหรับการเข้าตรวจสอบโรงงานลิ่วสัมฤทธิ์ ซึ่งเป็นสถานประกอบกิจการฟอกย้อม ตั้งอยู่ริมถนนสุคนธวิท และอยู่ห่างจากคลองเกาะโพธิ์ไปประมาณ 1 กม. นั้น ที่ผ่านมาโรงงานแห่งนี้เคยถูกชาวบ้านร้องเรียนมาแล้วหลายครั้ง และมีหน่วยงานเข้าตรวจสอบหลายหนแล้ว อีกทั้งที่ผ่านมายังได้มีการออกคำสั่งให้โรงงานแห่งนี้ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขระบบบำบัดน้ำเสีย รวมถึงการขออนุญาตเก็บและขนย้ายตะกอนอุตสาหกรรมด้วย
ขณะที่การเข้าตรวจครั้งนี้ ยังคงเป็นการเข้าตรวจในส่วนของระบบบำบัดน้ำเสีย ตั้งแต่บ่อรับน้ำเสียจากโรงงาน ไปจนถึงขั้นตอนการบำบัดน้ำเสีย สภาพน้ำที่ผ่านการบำบัดแล้ว ตะกอนที่ได้จากการบำบัดน้ำเสีย และเส้นทางเดินของน้ำที่ผ่านการบำบัดก่อนออกจากโรงงานไปสู่ท่อระบายน้ำด้านนอกเพื่อปล่อยลงสู่คลองสาธารณะต่อไป
ซึ่งจากสภาพที่เห็นด้วยตาเปล่านั้น ลักษณะน้ำมีสีดำสนิท มีแผ่นฝ้าสีแดงคล้ายสนิมลอยเป็นแผ่นๆ และมีกลิ่นสารเคมี โดยผู้ดูแลโรงงานได้พยายามอธิบายกระบวนการต่างๆให้ฟัง และยืนยันอย่างหนักแน่นว่า น้ำที่ปล่อยออกไปได้รับการบำบัดทุกครั้ง แต่เสียงสะท้อนจากชาวบ้านและผู้นำท้องถิ่น ที่จับตาดูโรงงานนี้มาตลอดบอกเล่าว่า หลายครั้งสังเกตว่าน้ำที่ปล่อยออกไปนอกโรงงานก็มีลักษณะดำและมีกลิ่นฉุน บางครั้งก็มีควันพวยพุ่งเนื่องจากเป็นน้ำร้อน
เมื่อเดินไปยังด้านหลังโรงงานก็สังเกตเห็นที่พื้นมีควันลอยขึ้นมา เจ้าหน้าที่จึงเอาเศษไม้ที่ปิดอยู่ออกไป ควันจากในท่อก็พวยพุ่งขึ้นมาและมีกลิ่นสารเคมีลอยออกมาด้วย นอกจากนั้นแล้วที่พื้นดินบริเวณหลังโรงงานก็กลายเป็นที่เก็บกากตะกอน ซึ่งมีลักษณะเหนียวๆ ข้นๆ โดยรอบไม่มีอะไรปิดกั้น สันนิษฐานว่าเมื่อมีฝนตกก็จะชะล้างบริเวณนี้ออกไปด้านนอกด้วย
ส่วนเรื่องการระบายน้ำนั้น ทางผู้ดูแลโรงงานบอกว่ามีการบำบัดอย่างถูกวิธี พร้อมกับได้เรียกเจ้าหน้าที่จากบริษัทที่ตรวจวัดคุณภาพน้ำมาอธิบาย ทางด้านเจ้าหน้าที่บอกว่า น้ำที่ตรวจจากระบบบำบัดก็มีค่าไม่เกินมาตรฐาน แต่เรื่องที่ว่าน้ำในโรงงานไหลออกไปข้างนอกตรงจุดใดและผ่านกระบวนการบำบัดหรือไม่นั้นเจ้าหน้าที่ตรวจวัดคุณภาพน้ำบอกว่าไม่ทราบ เพราะไม่ได้วางผังเรื่องระบบท่อต่างๆ
เมื่อทางโรงงานไม่รับว่ามีการปล่อยน้ำที่ไม่ผ่านการบำบัดออกสู่สาธารณะ ทางเจ้าหน้าที่ก็ต้องหาข้อพิสูจน์พร้อมกับขอตรวจภายรอบโรงงาน ซึ่งก็ต้องใช้เวลานานพอสมควร โดยหากพบจุดใดที่ไม่ผ่านมาตรฐานหรือโรงงานไม่ประพฤติตามกฎหมายเรื่องใด ทางเจ้าหน้าที่ก็จะเอาผิดตามกฎหมาย
นายอำเภอกระทุ่มแบน กล่าวว่า ศูนย์ดำรงธรรมอำเภอกระทุ่มแบน ได้รับการร้องเรียนเรื่องการลักลอบปล่อยน้ำเสียลงสู่คลองเกาะโพธิ์ ทำให้พี่น้องประชาชนได้รับผลกระทบในการใช้น้ำจากคลองเกาะโพธิ์เพื่อการเกษตร โดยน้ำที่ถูกปล่อยมีคราบคล้ายน้ำมันสีน้ำตาลแดง จึงได้สนธิกำลังกับทุกฝ่ายลงพื้นที่ตรวจสอบปากคลองเกาะโพธิ์ ซึ่งจากการตรวจสอบเรื่องร้องเรียนเดิมได้มีการออกมาตรวจสอบ เมื่อวันที่ 4 ต.ค. 2560
โดยคณะที่ลงตรวจสอบนั้น ได้สั่งการให้โรงงานดำเนินการปรับปรุงระบบบำบัดน้ำเสีย ปรับปรุงการจัดเก็บสารเคมี ที่วางในโรงงานให้เรียบร้อย ปรับปรุงทางระบายน้ำในบริเวณโรงงาน จัดการกากของเสียที่เกิดจากระบบบำบัดให้เรียบร้อย โดยให้ระยะเวลา 30 วันในการดำเนินการแก้ไข
แต่จากการลงพื้นที่ตรวจสอบในบริเวณโรงงานมิได้มีการปรับปรุงแก้ไข ตามมติเมื่อวันที่ 4 ต.ค. ประกอบกับพบคราบตะกอนบริเวณบ่อพักของโรงงานก่อนที่จะปล่อยสู่ท่อและลงคลองสาธารณะ และใกล้เคียงกับบ่อบำบัดยังพบกากคล้ายเลนจำนวนมาก ซึ่งผู้ดูแลอ้างว่าเป็นตะกอนที่ได้มาจากการล้างบ่อ และระบบบำบัดน้ำเสีย ไม่ได้มีการแก้ไขให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ มีการปล่อยน้ำในระบบการทำงาน แม้จะเป็นในส่วนของไอความร้อน และน้ำดีในส่วนของระบบไอน้ำ ออกมาเข้าระบบการปล่อยน้ำทิ้งโดยไม่ผ่านเข้าระบบบำบัดน้ำก่อน และอุณหภูมิของน้ำมีอุณหภูมิที่สูงกว่า 40 องศาเซลเซียส
ซึ่งทางผู้ดูแลโรงงานก็ยอมรับว่ามีการล้างบ่อบำบัด แต่ไม่ผ่านการบำบัด จึงได้ประสานทางวิศวกรของสำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดสมุทรสาคร ในการดำเนินการตาม พ.ร.บ.โรงงาน พ.ศ. 2535 มาตรา 39 ให้ระงับการผลิตชั่วคราวเป็นเวลา 30 วัน ในส่วนของส่วนที่เกี่ยวข้องของการใช้การใช้น้ำในการผลิตต่างๆ และหากยังมีการฝ่าฝืนในการขัดคำสั่ง ก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดกับโรงงานและพนักงานที่เกี่ยวข้องต่อไป ตาม มาตรา 55 ของ พ.ร.บ.โรงงานฯ
ทางด้านนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลดอนไก่ดี บอกว่า ที่ผ่านมาชาวบ้านตลอดแนวคลองเกาะโพธิ์ ต้องทนกับปัญหาน้ำเน่าเสียมานานกว่า 10 ปีแล้ว และได้มีการร้องเรียนไปยังเทศบาลตำบลดอนไก่ดี ซึ่งตนเองก็ได้ปรึกษาหารือร่วมกับทางนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองกระทุ่มแบน ซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่ที่โรงงานอุตสาหกรรมตั้งอยู่ และก็ได้มีแนวความคิดเดียวกันว่า เมื่อโรงงานต้องสงสัยยังคงฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งที่ผ่านมา ก็จะทดลองปิดคลองเป็นการชั่วคราว เพื่อดูสภาพน้ำที่ไหลออกจากท่อระบายน้ำ และให้น้ำเสียไหลย้อนกลับไปยังโรงงานที่ปล่อยออกมา
โดยล่าสุดก่อนที่ความอดทนของชาวบ้านจะสิ้นสุดนั้น ก็ได้เกิดเหตุการณ์โรงงานบางแห่งปล่อยน้ำเสียลงมาในคลอง มีสภาพสีดำ แผ่นฝ้าแดงคล้ายสนิมลอยเกลื่อน กลิ่นเหม็นและมีควันด้วย ดังนั้นจึงได้ตั้งใจที่จะดำเนินการขั้นเด็ดขาด แต่ในวันนี้หลังจากที่นายอำเภอลงพื้นที่เพื่อมาหาทางช่วยแก้ปัญหาให้แก่ชาวบ้านนั้น ทุกฝ่ายก็ยินดีปฏิบัติตาม จนกว่าจะถึงวันที่กำหนดไว้ หากไม่ผลก็คงจะต้องยึดแนวทางเดิมต่อไปคือปิดคลองเกาะโพธิ์
ข่าวโดย ณัฏฐนันท์ ศิริสันติวรกุล / เรียบเรียงโดย กองบรรณาธิการสาครออนไลน์