‘ทนายประชาชน’ นำหนุ่มถูกตัดขาแจ้งความหลังเจรจา รพ.เหลว – ‘วิชัยเวช’ อ้างทำถูกต้องแล้ว

มูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ นำหนุ่มวัย 25 ปี ที่ถูกตัดขา กรณีแพทย์เรียกเงินแสน เข้าแจ้งความ สภ.กระทุ่มแบน กล่าวโทษ รพ.เอกชน ฐานผิด พ.ร.บ.สถานพยาบาลฯ หลังร่วมพูดคุยทั้งสองฝ่ายไม่ได้ข้อยุติ ด้าน ผอ.รพ.ที่ถูกกล่าวหา ยันตรวจรักษาถูกต้อง

หลังจากที่ นายอภิรมย์ แก่นสาร อายุ 25 ปี ได้ร้องทุกข์ไปยังมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน เพื่อเยาวชนและสังคม เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม กรณีประสบอุบัติเหตุจักรยานยนต์ล้ม เมื่อคืนวันที่ 6 ก.ค.ที่ผ่านมา บริเวณ ถ.บรมราชชนนี ปากทางเข้า ถ.พุทธมณฑลสาย 2 แล้วถูกนำตัวส่ง รพ.เอกชนแห่งหนึ่งย่านอ้อมน้อย-เพชรเกษม

โดยแพทย์ได้เรียกเงิน 1 แสนบาทเพื่อรักษาขาขวาที่เส้นเลือดใหญ่ขาด แต่ทางครอบครัวไม่มีเงินให้ สุดท้ายถูกส่งตัวมารักษาต่อที่ รพ.มหาชัย 2 ซึ่งเป็น รพ.ตามสิทธิประกันสังคม แต่ไม่ทันการ ต้องตัดขาทิ้งกลายเป็นผู้พิการขาขาด และนอนพักรักษาตัวกว่าครึ่งเดือน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 4 ส.ค. 2560 นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม เลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ พร้อมนายอภิรมย์ แก่นสาร ผู้เสียหาย และนางภัทราวดี แก่นสาร อายุ 54 ปี ผู้เป็นมารดา เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน โดยมี พ.ต.ท.ประวิทย์ อาสานอก สารวัตรสอบสวนฯ เป็นผู้รับคดี ซึ่งหลังจากที่มีการรับแจ้งความแล้ว ทางตำรวจจะได้นัดผู้เสียหายมาสอบปากคำอีกครั้งหนึ่ง

ขณะเดียวกัน นางจินตนา จันทร์บำรุง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสมุทรสาคร ได้เดินทางมาที่ สภ.กระทุ่มแบน เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงและให้การช่วยเหลือ ซึ่งนางจินตนาได้ให้คำปรึกษา แนะนำให้ไปจดทะเบียนคนพิการ ลงทะเบียนเบี้ยยังชีพคนพิการ และจะประสานในเรื่องการจัดทำขาเทียมแก่ผู้เสียหายต่อไป

นายษิทรา กล่าวว่า วันนี้เรามาแจ้งความกล่าวโทษ ผู้รับอนุญาตและผู้ดำเนินการสถานพยาบาล ฐานไม่ควบคุมและดูแลให้ผู้ประกอบวิชาชีพปฏิบัติหน้าที่ของตนตามกฎหมาย ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ. 2541 ซึ่งเรื่องนี้ทาง นพ.วิศิษฎ์ ตั้งนภากร อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ ได้สั่งให้มีการสอบสวนแล้ว และจะประสานไปยังพนักงานสอบสวน สภ.กระทุ่มแบน และมูลนิธิทนายประชาชนฯ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ส่วนแพทย์ผู้ให้บริการก็จะส่งเรื่องให้ทางแพทยสภาพิจารณาด้วย

ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 2 ส.ค. ที่ผ่านมา นายอภิรมย์ และกับญาติๆ พร้อมด้วยมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ ได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลวิชัยเวชอินเตอร์เนชั่นแนล อ้อมน้อย ซึ่งเป็น รพ.เอกชนที่ถูกกล่าวถึง เพื่อรับฟังคำชี้แจงแนวทางการรักษาทางการแพทย์ จาก นพ.มงคล วณิชภักดีเดชา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯ และคณะทีมแพทย์ผู้ชำนาญงาน โดยใช้เวลาพูดคุยนานกว่า 2 ชั่วโมง แต่ยังหาข้อยุติไม่ได้

โดย นพ.มงคล ให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนว่า เหตุการณ์เมื่อคืนวันที่ 6 ก.ค. ที่ผ่านมา เมื่อเวลา 20.44 ทางโรงพยาบาลฯ ได้รับผู้บาดเจ็บเข้ามาทำการดูแลรักษาตามกระบวนการทางการแพทย์ที่ถูกต้องทุกขั้นตอน และผู้บาดเจ็บมีอาการลมออกจากปอดขั้นรุนแรงทำให้เสียชีวิตได้ จึงต้องทำการรักษาก่อน อีกทั้งได้ตรวจเอ็กซ์เรย์ส่วนอื่นของร่างกายที่คาดว่าได้รับความกระทบกระเทือน ขณะที่กระดูกหักนั้นไม่ได้มีแผลฉีกขาด จึงสามารถทำการรักษาทีหลังได้

ต่อมาพบว่าที่ปลายเท้าผู้บาดเจ็บมีอาการชาและเริ่มเขียวบวม จึงได้ทำการตรวจแล้วพบว่าเส้นเลือดที่ขาขาด ก็ได้มีการเรียกทางครอบครัวมาชี้แจงว่า หากนำผู้บาดเจ็บเข้ารับการรักษาที่ รพ.ตามสิทธิประกันสังคม จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายมากกว่า ซึ่งทางครอบครัวก็ยินดีให้ส่งตัวไปรักษา

ทั้งนี้ นพ.มงคล ยืนยันว่า รพ.วิชัยเวชฯ อ้อมน้อย ทำถูกต้องทุกอย่าง ส่วนผลที่ออกมานั้นแพทย์ถือว่าทำดีที่สุดแล้ว กรณีของคนไข้รายนี้แพทย์ทำถูกต้องทั้งหมด จึงไม่ต้องรับผิดชอบที่จะต้องเยียวยาผู้เสียหาย ซึ่งจะได้มีการปรึกษาหารือกับทางคณะผู้บริหารระดับสูงอีกครั้ง ว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป โดยหลังจากที่เป็นข่าวออกไปแล้ว ทางโรงพยาบาลฯ อยากจะชี้แจงให้สังคมรับทราบการทำงานของแพทย์บ้าง เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม

ในส่วนของนายอภิรมย์ บอกว่า ตนเองยังรู้สึกไม่พอใจกับการชี้แจงของทางโรงพยาบาลฯ เพราะบอกแค่เพียงขั้นตอนการรักษาทางการแพทย์เท่านั้น ซึ่งทางโรงพยาบาลฯ ยืนยันว่าทำถูกต้องแล้วทุกอย่าง ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบเยียวยาแต่อย่างใด และไม่ได้มีการนัดมาพูดคุยใดๆ อีก ส่วนเรื่องเรียกเงินแสนนั้นไม่ได้พูดถึง บอกเพียงว่าหากแพทย์พูดจริงก็ถือว่าไม่มีจรรยาบรรณของแพทย์เท่านั้น ซึ่งทำให้ตนและครอบครัวเสียความรู้สึก

รวมทั้งไม่มีการนำแพทย์ที่ทำการตรวจรักษาในวันนั้นมาพูดคุย เมื่อถามถึงอีกฝ่ายก็บอกว่าเป็นแพทย์พาร์ทไทม์ เรื่องตรวจสอบสิทธิประกันสังคมของตน พบว่าเป็นของ รพ.มหาชัย 2 ทำไมจึงไม่ส่งตัวไปทันที และการตรวจวินิจฉัยทำไมไม่พบว่าเส้นเลือดที่ขาขาด ซึ่งตรงนี้คงต้องเดินหน้าสู้ต่อไป เพื่อขอความเป็นธรรมให้เกิดขึ้นแก่ตนเองและครอบครัว โดยขอให้ทางมูลนิธิทีมงานทนายประชาชนฯ เป็นผู้ช่วยเหลือทางด้านกฎหมาย เพราะตนไม่มีเงินและความรู้ทางด้านกฎหมาย

สาครออนไลน์ โดย กองบรรณาธิการ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *