ที่ประชุมกรมการจังหวัดฯ หารือเรื่องการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทางภาคเหนือ-อีสาน การจดทะเบียนแรงงานต่างด้าวที่ยอดรวมต่ำกว่าประมาณการ รายงานผลการเร่งรัดติดตามเงินขาดบัญชี-จนท.ของรัฐทุจริต 6 เดือนแรก ปีงบประมาณ 60 จากหน่วยตรวจสอบภายในจังหวัดฯ “ผู้ว่าประภัสสร์” รับรางวัลผู้ว่าฯ TO BE NUMBER ONE ดีเด่น
เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2560 นายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วยนายอำพล อังคภากรณ์กุล และ นายเทพประสิทธิ์ วงษ์ท่าเรือ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร เป็นประธานในการประชุมคณะกรมการจังหวัดสมุทรสาคร หัวหน้าส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ ครั้งที่ 7/2560 ณ ห้องประชุมพันท้ายนรสิงห์ (401) ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร
ก่อนระเบียบวาระการประชุม ได้มีการแนะนำกิจกรรมที่โดดเด่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (Best Practice) โดยได้นำเสนอโครงการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียขนาดเล็กพร้อมปรับภูมิทัศน์ ของเทศบาลตำบลท่าจีน และโครงการอาสาสมัครพิทักษ์สมุทรสาคร “สิงห์สาคร” โดยตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรสาคร
ต่อมาเป็นเรื่องประธานแจ้งที่ประชุมทราบ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้กล่าวถึงเรื่องของการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยให้ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคเอกชน ขอรับการสนับสนุนเงินบริจาคช่วยเหลือ, เรื่องของการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 และเตรียมความพร้อมชี้แจงงบประมาณปี 2561,
เรื่องของศูนย์รับแจ้งการทำงานของคนต่างด้าว ระหว่าง 24 ก.ค. – 7 ส.ค. 2560 ที่สัปดาห์แรกมีนายจ้างพาแรงงานต่างด้าวเข้ารายงานตัวประมาณ 7,500 คน น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ประมาณ 3-4 หมื่นคน ทางผู้ว่าราชการจังหวัดจึงฝากไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องเร่งสร้างความเข้าใจแก่ผู้ประกอบการ และดำเนินการจดทะเบียนให้ทัน เพราะมีบางรายที่ยังกลัวว่าจะมีความผิดหากนำแรงงานต่างด้าวเข้ามารายงานตัวที่ศูนย์ฯ รวมถึงเรื่องของการรักษาความปลอดภัยในสถานที่ราชการ ตรวจสอบความพร้อมของกล้องวงจรปิด
ในส่วนของเรื่องเพื่อพิจารณา มีประเด็นที่สำคัญคือ รายงานผลการเร่งรัดติดตามกรณีเงินขาดบัญชีหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริตประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 รอบ 6 เดือนแรก (1 ต.ค. 2559 – 31 มี.ค. 2560) โดยกระทรวงมหาดไทย และจังหวัดสมุทรสาคร ได้มีหนังสือแจ้งส่วนราชการในสังกัดราชการบริหารส่วนภูมิภาคและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องใน จ.สมุทรสาคร ให้มีการกำกับดูแล การกระทำทุจริตที่อาจเกิดขึ้นภายในหน่วยงาน รวมทั้งเร่งรัดการดำเนินการทางแพ่ง อาญา และวินัย กับเจ้าหน้าที่ผู้กระทำความผิดให้เป็นไปตามกฎหมายหรือระเบียบที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งหน่วยตรวจสอบภายในจังหวัดสมุทรสาคร ได้ประสานเพื่อขอข้อมูลจากสำนักงานปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี ผลปรากฏว่ามีเรื่องกรณีเงินขาดบัญชีหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริตจำนวน 19 เรื่อง จำนวนเงินความเสียหาย 12,806,128.04 บาท โดยแยกตามกระทรวง ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย 14 เรื่อง จำนวนเงิน 10,489,059.78 บาท กระทรวงการคลัง 1 เรื่อง จำนวนเงิน 1,671,818.54 บาท, กระทรวงศึกษาธิการ 2 เรื่อง จำนวนเงิน 495,079.33, กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา 1 เรื่อง จำนวน 120,746.39 บาท และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ 1 เรื่อง จำนวน 29,430 บาท
เมื่อแยกตามประเภทส่วนราชการ เป็นส่วนท้องถิ่น 13 เรื่อง, รัฐวิสาหกิจ 1 เรื่อง, ส่วนกลาง 4 เรื่อง และส่วนภูมิภาค 1 เรื่อง และเมื่อแยกตามประเภทเงินขาดบัญชี ได้แก่ ทุจริตยักยอกเงิน หรือทรัพย์สินราชการ 6 เรื่อง จำนวนเงิน 8,121,627.50 บาท, ปฏิบัติผิดระเบียบ 7 เรื่อง จำนวนเงิน 2,954,338.54 บาท, ทุจริตการจัดซื้อจัดจ้าง 3 เรื่อง จำนวนเงิน 1,174,762 บาท และเบิกค่าเช่าบ้านเท็จ 3 เรื่อง จำนวนเงิน 555,400 บาท
โดย น.ส.ยุวดี เที่ยวรอบ หัวหน้าหน่วยตรวจสอบภายในจังหวัดสมุทรสาคร กล่าวว่า การทุจริตของหน่วยงานกระทรวงมหาดไทย ส่วนใหญ่เป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีส่วนราชการที่ได้เร่งรัด ยุติ ลงโทษ หรือเรียกเงินคืนไปแล้ว แต่ยังเหลือเรื่องอยู่อีกจำนวนมาก ส่วนเรื่องของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และกระทรวงเกษตรฯ ยุติไปแล้ว กระทรวงการคลัง จะเป็นของ ธอส. สมุทรสาคร มีการลงโทษไล่ออกไปแล้ว ยังเหลือการชดใช้เงิน ยังไม่ได้รับรายงาน และกระทรวงศึกษาธิการเหลืออีก 1 เรื่องที่ยังไม่ได้รับรายงานความคืบหน้า
โดยขอให้ส่วนราชการในสังกัดดังกล่าว ช่วยเร่งรัดในการดำเนินการทางแพ่งและอาญา พร้อมรายงานความคืบหน้าให้ทางจังหวัด เพื่อจะรายงานไปยังสำนักปลัด สำนักนายกรัฐมนตรี รายงานต่อไปยังนายกรัฐมนตรีต่อไป
อีกประเด็นหนึ่ง สรุปผลการประกวดผลงาน TO BE NUMBER ONE ระดับประเทศ โดยนายประภัสสร์ มาลากาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ประธานคณะกรรมการขับเคลื่อนจังหวัด TO BE NUMBER ONE สมุทรสาคร ได้รับรางวัลผู้ว่าราชการจังหวัด TO BE NUMBER ONE ดีเด่น, นายบุญชอบ ทับไกร ที่ปรึกษาชมรม TO BE NUMBER ONE เยาวชนคนดี ศรีเกษตรพัฒนา ได้รับรางวัลผู้นำในชุมชนดีเด่น
ส่วนรางวัลชมรม TO BE NUMBER ONE ประเภทต้นแบบ ได้แก่ บริษัท ซีพี ออลล์ DC มหาชัย ชมรม TO BE NUMBER ONE ในสถานประกอบการ สามารถรักษามาตรฐานพร้อมเป็นต้นแบบระดับเงินปีที่ 1 และชมรม TO BE NUMBER ONE เยาวชนคนดี ศรีเกษตรพัฒนา ชมรม TO BE NUMBER ONE ในชุมชน สามารถรักษามาตรฐานพร้อมเป็นต้นแบบระดับเงินปีที่ 2
รางวัลชมรม TO BE NUMBER ONE ประเภทดีเด่น ได้แก่ ชุมชนบ้านคลองครุนอก ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ประเภทชมรม TO BE NUMBER ONE ดีเด่นในชุมชน และบริษัท ซีพี ออลล์ พันท้ายนรสิงห์ ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 4 ประเภทชมรม TO BE NUMBER ONE ดีเด่นในสถานประกอบการ
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของการร่วมเป็นเจ้าภาพ และเข้าร่วมพิธีสวดเจริญพระพุทธมนต์และเจริญจิตภาวนา ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ประจำเดือนสิงหาคม, รายงานผลการประมูลหมายเลขทะเบียนรถกระบะเลขสวย จ.สมุทรสาคร, การฝึกการป้องกันและระงับอัคคีภัยของส่วนราชการ และศูนย์ตรวจสุขภาพของข้าราชการโรงพยาบาลสมุทรสาคร
สาครออนไลน์ โดย กองบรรณาธิการ