“สมุทรสาคร เอฟ.ซี.” ก่อนจะถึงฤดูกาลใหม่

สโมสรฟุตบอลเจ้าของฉายา “สำเภาผยอง” สมุทรสาคร เอฟ.ซี. ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 2553 เพื่อสู้ศึกฟุตบอลลีกภูมิภาค ในฤดูกาลที่ผ่านมาผลงานที่พลาดการเลื่อนชั้นดิวิชั่น 1 ด้วยอันดับ 5 นำมาซึ่งการผ่าตัดองค์กรครั้งใหญ่ ในที่สุดได้เปิดตัวพร้อมลงแข่งขันแบบล้างตาอีกรอบ

จากความพร้อมทั้งทีมที่ได้เลือดใหม่ และพันธมิตรผู้ฝึกสอนใหม่ รวมทั้งเงินอัดฉีดจากผู้สนับสนุนที่มากขึ้น ทีมข่าวเฉพาะกิจสาครออนไลน์ ได้วิเคราะห์บทเรียนในช่วงฤดูกาลที่ผ่านมาพอสังเขป ก่อนจะถึงการแข่งขัน “เอไอเอส รีเจอนัล ลีก” ลีกภูมิภาคในฤดูกาล 2011 อีกไม่กี่อึดใจ

• • •

จากผลงานของ “สำเภาผยอง” สมุทรสาคร เอฟซี ในศึกฟุตบอลลีกภูมิภาค “เอไอเอส รีเจอนัล ลีก” โซนภาคกลางและภาคตะวันออก ฤดูกาล 2553 ที่ผ่านมา จบด้วยอันดับที่ 5 จนทำให้ไม่สามารถผ่านเข้าไปสู่รอบแชมเปี้ยนลีก เพื่อโอกาสที่จะได้เลื่อนขึ้นชั้นสู่ลีกดิวิชั่น 1 ได้

โดยปัญหาต่างๆ มากมายของทีม จากในปลายเลคที่ 2 สโมสรถูกสั่งห้ามใช้สนามกีฬาวิทยาลัยการพละศึกษาฯ สมุทรสาคร เป็นสนามเหย้าแข่งขัน เนื่องจากหญ้าในสนามมีสภาพย่ำแย่ จนต้องไปใช้สนามกีฬากลางเทศบาลตำบลปากท่อ และสนามกีฬากลางสมุทรสงครามลงทำการแข่งขันแทน

อีกทั้งผลงานของทีมในช่วงเลกที่ 2 ทำได้ไม่ดีมากนัก ทั้งๆ ที่มีการเสริมทัพนักเตะในเลกนี้อย่างมากมาย ส่วนหนึ่งเพราะสภาพความฟิตของนักเตะ และการเตรียมทีมที่ไม่ดีพร้อม จนไปได้ไม่ถึงเป้าหมายในฤดูกาลดังกล่าว

การเปลี่ยนแปลงของ “สำเภาผยอง” จึงเกิดขึ้น ด้วยการสั่งปลด “โค้ชกิจ-กิจ มีศรีสุข” หัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีม ในช่วงหลังปิดฤดูกาล และได้นำ “โค้ชเกลี้ยง-นราศักดิ์ บุญเกลี้ยง” อดีตนักเตะผู้รักษาประตูทีมชาติไทย จากแอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด มาคุมทีมแทน

อีกทั้งยังมีการเริ่มปรับปรุงสภาพพื้นหญ้าในสนามกีฬากลางจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อที่จะใช้เป็นสนามเหย้าของทีมในฤดูกาลต่อไป และเมื่อปลายปีที่แล้ว ได้มีการแถลงข่าวเปิดตัวผู้สนับสนุนชุดกีฬารายใหม่ภายใต้ชื่อ คีล่า (KELA) แทนที่ไนท์สปอร์ตผู้สนับสนุนชุดแข่งรายเดิม

ภาพจาก http://samutsakhonfc.net/webboard/index.php?topic=4316.0

ก่อนที่จะเริ่มต้นลีกภูมิภาคในฤดูกาล 2554 เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร ทางสโมสรฟุตบอลสมุทรสาคร เอฟซี ได้จัดงานแถลงข่าวเปิดตัวความพร้อมในฤดูกาลนี้

โดยมี นายจุลภัทร แสงจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วย นายกฯ ตุ่น-อุดร ไกรวัฒนุสรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร ผู้เป็นประธานสโมสร

ร่วมด้วย พล.อ.อ.อมฤต จารยะพันธุ์ ประธานสโมสรแอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด พันธมิตรของสโมสร  และ “โค้ชเกลี้ยง” นราศักดิ์ บุญเกลี้ยง หัวหน้าผู้ฝึกสอนของสโมสร ร่วมกันแถลงข่าว พร้อมกับเปิดนักเตะของทีม ซึ่งมีสื่อมวลชนและแฟนคลับของทีมให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก

ในการแถลงข่าวครั้งนี้ ทางสโมสรตั้งเป้าไว้ในปีนี้ว่า จะจบฤดูกาลโดยคว้าในอันดับที่ 1-3 เพื่อได้สิทธิ์ในการลงเล่นรอบแชมเปี้ยนลีก โดยใช้งบประมาณในการทำทีม 10 ล้านบาท งบประมาณปรับปรุงสนามและสถานที่ 13 ล้านบาท

โดยงบประมาณของทีมส่วนหนึ่งในปีนี้ ได้จากผู้สนับสนุนเซ็นสัญญาติดโลโก้บนชุดแข่งขัน โดย บริษัทไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด ได้เซ็นสัญญาเป็นเจ้าของโลโก้บนหน้าอกเสื้อของทีมเป็นเวลา 5 ปีๆ ละ 1 ล้านบาทต่อฤดูกาล และ ลีโอเบียร์ ได้เซ็นสัญญาโลโก้บนแขนเสื้อในฤดูกาลนี้อีก 2.5 แสนบาทเป็นเวลา 1 ปี

น่าคิดว่า การเปลี่ยนแปลงอย่างมากมายของทีมในครั้งนี้ จะพาสโมสรฟุตบอลหนึ่งเดียวของจังหวัด ก้าวขึ้นไปสู่ลีกสูงขึ้นมาอีกขั้นได้หรือไม่ ซึ่งดูงบประมาณในการทำทีมสูงพอสมควร

ภาพจาก http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/110112_249.html

ในส่วนของนักเตะและผู้ฝึกสอนของทีม จากที่ โค้ชกิจ-กิจ มีศรีสุข ได้ลงจากตำแหน่งกุนซือใหญ่ของทีม ทำให้นักเตะดาวดังของทีมหลายๆ คน ย้ายไปค้าแข้งในทีมอื่นๆ

อย่างเช่น “เจ้าขาว-บรรลือศักดิ์ ยอดยิ่งยงค์” กองกลางตัวรุกของทีม และ “เจ้าเอ็ม-สมลักษณ์ รัศมี” ศูนย์หน้าดาวยิงสูงสุดของลีกดิวิชั่น 2 โซนภาคกลางและตะวันออกเมื่อฤดูกาลก่อน ด้วยผลงาน 24 ประตู พากันย้ายไปร่วมรัง “นกเงือกมหาภัย” ชัยนาท เอฟซี ซึ่งเป็นน้องใหม่ในลีกดิวิชั่น 1 ฤดูกาลนี้ ขณะที่นักเตะต่างชาติอย่าง “กามาร่า อาลี” ดาวยิงทีมชาติกีนี ย้ายไปร่วมทีมนนทบุรี เอฟซี ทีมในดิวิชั่น 2 โซนกรุงเทพและปริมณฑล

ส่วนในโซนภาคกลางและภาคตะวันออก มี “ป๋าเทพ-สุเทพ หนักแน่น” ย้ายไปเล่นให้กับสโมสรลพบุรี เอฟซี “น้าปุย-บัญชา นุนารถ” ผู้รักษาประตูมือดี ย้ายกลับไปถิ่นเก่า ปทุมธานี เอฟซี และ สุจิน เพ็งศิริ แบ๊คจอมเก๋าย้ายไปร่วมทัพอยุธยา เอฟซี

แต่นักเตะชุดเดิมที่ยังอยู่กับทีมมี “กัปตันน้อย-จรูญศักดิ์ สมกอง” และ “ซิเก้-ซิเก้ โมเสส” ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ฮาล์ฟ ฟูลแบ๊คเป็น “เจ้าหรั่ง-ธงชัย โพธิ์นาง” และ “เจ้าพงษ์-สมพงษ์ ชื่นยินดี” และกองหน้าเลือดสมุทรสาครอย่าง “เจ้าโทน-ภัทยา รอดคลองตัน” นอกจากนี้ยังมี กฤษดา จิตนิยม และบุญชัย นิลยินดี นักเตะที่พึ่งย้ายมาช่วงเลกสอง ที่ยังอยู่กับทีม

ส่วนนักเตะใหม่ที่เข้าร่วมทีมในฤดูกาลนี้ มีทั้งนักเตะจากทีมแอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ด ที่เป็นพันธมิตรลูกหนัง และมาจากสโมสรต่างๆ ในประเทศไทย ทั้งถ้วย ข. และลีกภูมิภาค อีกทั้งยังมีนักเตะต่างชาติอย่าง คอปปี้ วิลสัน กองหลังชาวกาน่าจากปราจีนบุรี ยูไนเต็ด, ซานู อูมา กองกลางจากมหาสารคาม ซิตี้, รัทชานู โตบิท กองหน้าที่เพิ่งได้ลงเล่นในลีกของไทยเป็นครั้งแรก

ที่น่าฮือฮาเห็นจะเป็นการคว้า 2 ดาวเตะจากลีกกัมพูชา “เม็ทโฟน ซี-ลีก” อย่าง ยามี่ โจเซฟ ศูนย์หน้าชาวไนจีเรียจากทีมนากาคอร์ป เอฟซี และ แก้ว สกง่อน ศูนย์หน้าทีมชาติกัมพูชา จากทีมพนมเปญ คราวน์

ผู้ฝึกสอนของทีมอย่าง โค้ชเกลี้ยง-นราศักดิ์ บุญเกลี้ยง อดีตยอดผู้รักษาประตูที่รับใช้ทีมชาติไทย และทีมทหารอากาศในยุคทศวรรษที่ 2520-2530 ซึ่งแฟนบอลรุ่นเก๋าน่าจะจดจำได้ดีในฐานะผู้รักษาประตูทีมชาติไทย ที่เคยรับหน้าที่เป็นศูนย์หน้า ยิงประตูได้ในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกนัดที่พบกับอินเดีย เมื่อปี 2528 ก่อนจะรับหน้าที่นี้ เคยเป็นสต๊าฟโค้ชให้กับทีมแอร์ฟอร์ซ ยูไนเต็ดมาก่อน

ต้องคอยดูกันต่อไปว่า ผลงานที่เป็นเลือดใหม่ และพันธมิตรรายใหม่ของสโมสรฯ จะสามารถนำ “สำเภาผยอง” ไปถึงเป้าหมายลุ้นอันดับ 1-3 ในฟุตบอลลีกภูมิภาค ฤดูกาลที่จะถึงนี้ เพื่อเลื่อนขึ้นชั้นสู่ลีกดิวิชั่น 1 ได้หรือไม่ ก่อนจะก้าวเข้าสู่ไทยพรีเมียร์ลีกเป็นสเต็ปต่อไป.



แสดงความคิดเห็น


เงื่อนไขในการแสดงความคิดเห็น
• กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่สุภาพ โปรดงดเว้นการใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
• การลบความคิดเห็น ที่ไม่เหมาะสม สามารถกระทำได้ทันที โดยไม่ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้

เรื่องก่อนหน้า-ย้อนหลัง