‘ม้อ’กระชับพื้นที่ ปชป.

การออกมาส่งสัญญาณวันยุบสภาของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี ที่กำลังจะเกิดขึ้นในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ และจัดการเลือกตั้งในช่วงเดือนกรกฎาคม ทำเอาบรรยากาศการเมืองคึกคักขึ้นถนัดตา ไม่เว้นแม้แต่สมุทรสาคร ที่การเลือกตั้งครั้งนี้ประชันกันระหว่างตระกูล “ไกรวัตนุสสรณ์” จากพรรคเพื่อไทย กับตระกูล “ทับสุวรรณ” จากพรรคประชาธิปัตย์

การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ที่กำลังจะมาถึงนี้ มีความเปลี่ยนแปลงในส่วนของ “ระบบเลือกตั้ง” อย่างน่าสนใจ เพราะแต่เดิมในรัฐธรรมนูญฉบับปี 2550 การเลือกตั้ง ส.ส.แบ่งออกเป็นสองระบบ คือระบบสัดส่วนเป็นกลุ่มจังหวัด และระบบแบ่งเขตแบบเขตเดียวเรียงเบอร์

แต่เมื่อไม่นานมานี้รัฐบาลอภิสิทธิ์ผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่าด้วยระบบเลือกตั้ง (มาตรา 93-98) เป็นผลสำเร็จ ก่อนที่จะขึ้นทูลเกล้าฯ และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว โปรดเกล้าฯ ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประกาศในราชกิจจานุเบกษาเมื่อวันที่ 4 มีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งแบ่งออกเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ (ปาร์ตี้ลิสต์) 125 คน และ ส.ส.แบ่งเขต 375 คนแบบเขตเดียวเบอร์เดียว

ขณะเดียวกัน คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกประกาศจำนวน ส.ส.แบบแบ่งเขตเลือกตั้งและเขตเลือกตั้งของแต่ละจังหวัด ซึ่งพบว่า ในส่วนของจังหวัดสมุทรสาคร มีจำนวนราษฎร 491,887 คน จำนวน ส.ส. 3 คน จำนวนเขตเลือกตั้ง 3 เขต ซึ่งภายหลังทาง กกต.จังหวัดระบุว่าจะแบ่งเขตเลือกตั้งตามจำนวนประชากรเหมือนปี 2548

ย่อมหมายความว่า อาจมีบางตำบลในเขตอำเภอเมืองสมุทรสาคร ต้องแบ่งไปอยู่เขตเลือกตั้งอื่น เช่น ตำบลนาดีและบางน้ำจืดไปอยู่ในเขต 2 (กระทุ่มแบน) ส่วนตำบลบ้านเกาะ บางกระเจ้า บ้านบ่อ ชัยมงคล บางโทรัด กาหลง และนาโคกไปอยู่เขต 3 (บ้านแพ้ว) ซึ่งคนที่เคยใช้สิทธิ์เลือกตั้งในปี 2544 และ 2548 น่าจะคุ้นเคยกันดี

จากระบบเลือกตั้งที่เปลี่ยนแปลงไป นักสังเกตการณ์ทางการเมืองในจังหวัดสมุทรสาครก็คงจะคาดการณ์ออกว่า ผู้สมัครรับเลือกตั้งในปีนี้ใครอยู่เขตไหน เริ่มกันที่พรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งมี “เอนก ทับสุวรรณ” อดีต ส.ส.สมุทรสาครคุมพื้นที่ ส่งผู้สมัครชุดเดิม คือ ครรชิต ทับสุวรรณ บุตรชายเอนก ลงเขต 1, นาวาตรี (นต.) สุธรรม ระหงษ์ ทายาทของอดีตนักการเมืองดัง สมบูรณ์ ระหงษ์ ลงเขต 2 กระทุ่มแบน และ นิติรัฐ สุนทรวร หลานชายณรงค์ สุนทรวร อดีต ส.ส.รุ่นเก่าประชาธิปัตย์ ลงเขต 3 บ้านแพ้ว

ส่วนพรรคเพื่อไทย ส.ส.เก่าแก่อย่าง “เฮียม้อ” มณฑล ไกรวัตนุสสรณ์ ลงพื้นที่เขต 1 เช่นเดิม ขณะที่บุตรชายคนเล็กอย่าง ต่อ-อนุสรณ์ ไกรวัตนุสสรณ์ อดีต ส.ส.สมุทรสาคร พรรคไทยรักไทย ถูกส่งไปอยู่ในพื้นที่เขต 3 บ้านแพ้ว เพื่อคว้าคะแนนเสียงจากฐานเสียงของพี่ชายอย่าง “ปลัดแต” อุดม ไกรวัตนุสสรณ์ สมาชิกบ้านเลขที่ 111 ที่ยังไม่พ้นโทษตัดสิทธิ์เลือกตั้ง

แต่สำหรับเขต 2 กระทุ่มแบน ล่าสุดแหล่งข่าวจากผู้บริหารท้องถิ่นรายหนึ่ง ระบุว่าจะส่ง “บุญชู นิลถนอม” สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (สจ.) สมุทรสาคร เขตอ้อมน้อย คนใกล้ชิด “นายกฯ ตุ่น” อุดร ไกรวัตนุสสรณ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสมุทรสาคร ลงสมัคร ซึ่งจะต้องแข่งกับ “น.ต.สุธรรม” เจ้าของพื้นที่เดิม 2 สมัย (ปี 2544 และ 2550)

แหล่งข่าวในพื้นที่เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ในพื้นที่กระทุ่มแบน จะได้เห็น ส.จ.บุญชูเปิดตัวด้วยการออกงานตามที่ต่างๆ มานานแล้ว หนำซ้ำเคยช่วยหาเสียงให้แก่ น.ต.สุธรรมมาก่อน มาคราวนี้เมื่อได้รับการทาบทามจากตระกูลไกรวัตนุสสรณ์เพื่อแข่งกับ “คนกันเอง” แล้ว คาดการณ์กันว่าพื้นที่นี้จะเป็นเขตช้างชนช้างที่เข้มข้นกว่าเขตอื่น

โดยเฉพาะในเขตเทศบาลนครอ้อมน้อยที่เป็นฐานเสียงของ ส.จ.บุญชู ในหมู่บ้านหรรษา อ้อมน้อย หมู่ 13 นอกจากนี้หากสังเกตความเป็นไปในช่วงที่ผ่านมา นายกฯ ตุ่นก็มีสายสัมพันธ์อันดีกับ “สมศักดิ์ ขวัญเมือง” นายกเทศมนตรีนครอ้อมน้อย สังเกตได้จากการทุ่มงบ อบจ.สร้างอาคารเรียนวัดศรีสำราญราษฎร์บำรุง ในพื้นที่เทศบาลอ้อมน้อย เป็นเงิน 9,624,600 บาท

สำหรับพรรคการเมืองอื่นๆ เช่น พรรคภูมิใจไทย แม้ก่อนหน้านี้จะส่ง “ธนกร จิระภาสุขสกุล” เจ้าของบริษัท จิรภา เซรามิคส์ จำกัด และเป็นที่ปรึกษา รมว.อุตสาหกรรม เข้ามาแนะนำตัวออกสื่อเป็นการชิมลาง แต่เสียงตอบรับยังไม่เป็นที่รู้จักมากเท่าที่ควร ขณะที่พรรคชาติไทยพัฒนา ก่อนหน้านั้นส่ง วิรัช เถื่อนยืนยงค์ ผู้อำนวยการองค์การสะพานปลา และนันท์ ออประเสริฐ เจ้าของร้านสุธินันท์ค้าไม้ ถือเป็นผู้สมัครไม้ประดับที่ต่อสู้กับสองพรรคใหญ่ได้ลำบาก

แต่ที่น่าจับตามองสำหรับอดีต ส.ส.ศุภพรพงศ์ ชวนบุญ สมาชิกบ้านเลขที่ 109 ที่มีพี่ชายอย่าง ปัญญา ชวนบุญ เป็น ส.อบจ.เขตเมือง ว่าจะลงเลือกตั้งครั้งนี้หรือไม่ และสวมเสื้อพรรคไหน เพราะตัวศุภพรพงศ์เองมีสายสัมพันธ์กับ สมศักดิ์ เทพสุทิน สมาชิกบ้านเลขที่ 111 ที่ปัจจุบันกลุ่มมัชฌิมาจับมือกลุ่มเพื่อนเนวินตั้งพรรคภูมิใจไทย โดยมี พรทิวา นาคาศัย เป็น รมว.พาณิชย์ในรัฐบาลอภิสิทธิ์

ในส่วนของเขตเลือกตั้งที่ 1 ตัวเมืองมหาชัย การสู้ศึกกันระหว่าง “เฮียม้อ” กับ “ครรชิต” บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนของเอนก อาจเรียกได้ว่าเป็นกระดูกคนละเบอร์ เพราะคนที่แก่พรรษาอย่างเฮียม้อ ย่อมมีประสบการณ์มากกว่านักการเมืองหน้าใหม่อย่างครรชิต ไม่นับรวมบุตรชายทั้งสาม ที่คอยช่วยสร้างเสถียรภาพทางการเมืองให้บิดายั่งยืนจวบจนทุกวันนี้

ไม่ว่าจะเป็นปลัดแต ก่อนหน้านี้ดูแลหอการค้าสมุทรสาคร กุมนักธุรกิจและพ่อค้าในจังหวัดมากมาย หรือจะเป็นนายกฯ ตุ่น ที่เป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด มีแต้มต่อจากความใกล้ชิดกับองค์กรต่างๆ ในท้องถิ่น มีฐานเสียงในตำบลครบทั้ง 3 อำเภอ รวมทั้งลูกชายคนเล็ก ต่อ-อนุสรณ์ ที่แม้จะพลาดตำแหน่ง ส.ส.แต่ก็ขยันลงพื้นที่ ขยันออกงานตามพี่ชายสม่ำเสมอ

เมื่อมองมาที่ครรชิต ที่ได้เป็น ส.ส.สมัยแรกเพราะระบบเลือกตั้งแบบเขตเดียวเรียงเบอร์ ซึ่งสังเกตได้ชัดว่า เฮียม้อและครรชิตมาจากพื้นที่เดียวกัน ขณะที่การเลือกตั้งครั้งที่แล้ว แกนนำพรรคประชาธิปัตย์คนสำคัญ “ชวน หลีกภัย” ลงพื้นที่ตลาดมหาชัยและกระทุ่มแบน และหัวหน้าพรรค “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” ปราศรัยที่ศาลากลางจังหวัด ทำให้เกิดกระแสพรรคขึ้นมา

ขณะที่อีกส่วนหนึ่งมาจากคะแนนนิยมของ น.ต.สุธรรม รวมทั้งบิดาอย่างเอนก ที่ขอแรงช่วยคะแนนเสียงให้บุตรชายในพื้นที่ตลาดมหาชัย ซึ่งตัวเอนกก็ใช่ว่าจะวางมือทางการเมืองอย่างสนิทใจ เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยลงสมัครนายกฯ อบจ.ในการเลือกตั้งเมื่อ 20 เมษายน 2551 แต่พ่ายแพ้พลังตุ่นแบบไม่เห็นฝุ่น กระทั่งขึ้นป้ายที่สำนักงานสาขาพรรค ร้องขอให้ช่วยจับงบประมาณ อบจ. กว่า 2 พันล้านบาท

ครรชิตอาจตกที่นั่งลำบาก เมื่อต้องมาเจอการเลือกตั้งแบบ “วันแมนวันโหวต” ที่ต้องวัดดวงกับเฮียม้อแบบตัวต่อตัว ซึ่งถ้าจะใช้บารมีพ่ออย่างเอนกอาจเป็นไปได้ยาก เพราะภาพของเอนกหลังร้างลาเวทีการเมืองมานาน ค่อยๆ เลือนลาง แทนที่ซึ่งตระกูลไกรวัตนุสสรณ์ที่คุมการเมืองในจังหวัดแบบเบ็ดเสร็จ อีกทั้งกระแสพรรคประชาธิปัตย์ก็ใช่ว่าจะสู้ดีนัก

ในส่วนของเขต 3 บ้านแพ้ว แม้ขวัญใจชาวสวนชาวนาอย่างปลัดแต ติดบ้านเลขที่ 111 จากกรณีเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ซึ่งกว่าจะพ้นโทษตัดสิทธิ์ทางการเมืองก็ร้องเพลงรอไปถึง 31 พฤษภาคม 2555 แต่ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เฮียม้อผู้เป็นบิดาต้องก้าวสู่สนามการเมืองอีกครั้งเพื่อรักษาอำนาจให้ลูกชาย พรรคพลังประชาชนจึงคว้ามาได้ 1 เก้าอี้

มาคราวนี้ เขตบ้านแพ้วได้ส่งน้องชายเฉกเช่น ต่อ-อนุสรณ์ ลงพื้นที่แบบวันแมนวันโหวตกับ นิติรัฐ คาดว่าจะต่อสู้กันไม่ยากเพราะมีฐานเสียงจากเฮียม้อและปลัดแต ส่วนคนที่ถามถึง พ.ต.อ.วิเลข ศรีนิเวศน์ อดีต ส.ส.สอบตกว่าหายไปไหน ตรวจสอบจาก กกต. ถึงขณะนี้ก็ยังไม่เป็นสมาชิกพรรคการเมืองใดๆ ซึ่งคุณสมบัติของผู้ที่จะลงสมัครต้องเป็นสมาชิกพรรคไม่น้อยกว่า 90 วัน

จากการคาดการณ์เบื้องต้นของสาครออนไลน์ การเลือกตั้งคราวนี้น่าจะคึกคักทั้งผู้สมัคร และพื้นที่เลือกตั้งทั้งจังหวัดถูกแบ่งออกเป็นเขตย่อย การต่อสู้แบบวันแมนวันโหวตน่าจะได้ผู้แทนที่สมน้ำสมเนื้อ สำคัญตรงที่ผู้มาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง จะมีความตื่นตัวในการออกมาใช้สิทธิ์ ทั้ง “เลือกใคร” และ “ไม่เลือกใคร” มากน้อยขนาดไหน เป็นหน้าที่ของคนสมุทรสาครที่มีสิทธิ์เลือกตั้งทุกคน



8 ความคิดเห็น เรื่อง “‘ม้อ’กระชับพื้นที่ ปชป.”

  1. ลี กล่าวว่า:

    พ.ค. 02, 11 at 3:32 am

    ผมกำลังไปสมัครสมาชิกพรรค เพื่อไทย เพื่อเลือก สส.เพื่อไทย และ พรรคเพื่อไทย เท่านั้น

  2. คนอ้อมน้อย กล่าวว่า:

    พ.ค. 14, 11 at 9:33 am

    ขอสนันสนุน บุญชู นิลถนอม เป็นผู้แทนของเรา

  3. คนนาดี กล่าวว่า:

    พ.ค. 20, 11 at 12:29 pm

    บุญชู นิลถนอม เช่นกัน

  4. คนนาดี กล่าวว่า:

    พ.ค. 20, 11 at 12:30 pm

    เขตสองยากได้ผู้แทนที่ดุๆ

  5. กู๋เด่น มหาชัย กล่าวว่า:

    พ.ค. 25, 11 at 8:52 am

    ผมก็สนับสนุน พรรคเพื่อไทยคับ สู้สู้คับ

  6. ภากร กัสโต้ กล่าวว่า:

    พ.ค. 29, 11 at 9:04 am

    อยากให้นายบุญชู นิลถนอม ได้เป็น ตัวแทนของคนอ้อมน้อย

  7. ป๋า ชช.13 กล่าวว่า:

    มิ.ย. 28, 11 at 12:59 am

    ชมรมศิษย์เก่าช่างเชื่อมสมุทรสาคร และศิษย์เก่าเทคนิคสมุทรสาคร
    พร้อมสนับสนุน บุญชู นิลถนอม ( พี่หลอ ) เต็มที่โชว์พลัง
    แห่งพี่น้องศิษย์เก่า สู้ ๆ ครับพี่

  8. art กล่าวว่า:

    เม.ย. 10, 13 at 9:01 am

    ปัญญา ชวนบุญ สู้ๆ
    และเขาอยู่พรรคไหนเนี่ย


แสดงความคิดเห็น


เงื่อนไขในการแสดงความคิดเห็น
• กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่สุภาพ โปรดงดเว้นการใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
• การลบความคิดเห็น ที่ไม่เหมาะสม สามารถกระทำได้ทันที โดยไม่ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้

เรื่องก่อนหน้า-ย้อนหลัง