พระราม 2 ทำเลทอง
การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่สมุทรสาคร กำลังเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้ประกอบการรายใหญ่จากส่วนกลางเข้ามาเจาะตลาดย่านนี้เพิ่มขึ้น ขณะที่ความนิยมในการซื้อบ้านย่านดังกล่าวก็มีผลตอบรับที่มากขึ้น ด้วยข้อดีคือการคมนาคมสะดวก ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ มีเส้นทางถนนพระราม 2 ถนนเอกชัย และถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก ก็เป็นผลมาจากราคาบ้านที่เหมาะสำหรับกลุ่มลูกค้าระดับกลางล่างที่ต้องการมีบ้านเป็นของตัวเอง
จากการเปิดเผยของบริษัท เอเจนซี่ ฟอร์เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด หรือเอเรีย บริษัทสำรวจวิจัยตลาดและประเมินค่าทรัพย์สินอสังหาริมทรัพย์ เปิดเผยถึงการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในโซนพระราม 2 ถึงจังหวัดสมุทรสาคร เมื่อสิ้นปีที่ผ่านมา พบว่าโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่เปิดตัวในโซนดังกล่าว มีจำนวนหน่วยรวม 13,200 หน่วย คิดเป็นมูลค่า 37,000 ล้านบาท มียอดขายไปแล้วกว่า 70%
ที่น่าสนใจคือ โครงการที่เปิดตัวตั้งแต่โซนถนนวงแหวนรอบนอก (ถนนกาญจนาภิเษก) ถึงจังหวัดสมุทรสาคร ไม่รวมพื้นที่มหาชัยที่เป็นเขตเศรษฐกิจ มีการพัฒนาโครงการออกมาจำนวน 7,000 หน่วย มูลค่า 25,000 ล้านบาท โดยเป็นโครงการบ้านเดี่ยวจำนวน 3,800 หน่วย ซึ่งส่วนใหญ่จะมีระดับราคา 3-10 ล้านบาท และโครงการทาวน์เฮาส์จำนวน 2,200 หน่วย ส่วนใหญ่พัฒนาในระดับราคา 1-2 ล้านบาท
ซึ่งการพัฒนาโครงการในพื้นที่โซนพระราม 2 จนถึงจังหวัดสมุทรสาคร ส่วนใหญ่จะเป็นบริษัทที่อยู่นอกตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นหลัก ที่พัฒนาออกมามากจะเป็นบริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด และบริษัท พิศาลเฮ้าส์ซิ่ง จำกัด ส่วนบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ผ่านมามีการพัฒนาโครงการบ้างแต่จำนวนไม่มากนัก และส่วนใหญ่ยังเป็นโครงการที่พัฒนามาก่อนหน้านี้แล้ว อาทิ พฤกษา เรียลเอสเตท, ศุภาลัย, แสนสิริ, ปริญสิริ, ควอลิตี้เฮ้าส์ และกรุงเทพฯ บ้านและที่ดิน เป็นต้น
ด้านราคาที่ดินของโซนพระราม 2 ไม่มีความเคลื่อนไหวมากนัก ปัจจุบันที่ดินติดถนนใหญ่จะมีระดับราคา 70,000-80,000 บาทต่อตารางวา หากเข้าซอยจะมีระดับราคา 50,000 บาทต่อตารางวา หากเลยโซนถนนวงแหวนรอบนอก (ถนนกาญจนาภิเษก) จะมีระดับราคา 40,000 บาทต่อตารางวา ส่วนในจังหวัดสมุทรสาครมีระดับราคา 10,000 บาทต่อตารางวา
อย่างไรก็ตาม สำหรับในปี 2554 ที่กำลังดำเนินอยู่นี้ ก็เริ่มมีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ทั้งในท้องถิ่น และผู้ประกอบการรายใหญ่จากส่วนกลางเข้ามาเจาะตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่พระราม 2 ถึงจังหวัดสมุทรสาครมากขึ้น โดยเฉพาะความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจจากฝั่ง กานดา พร็อพเพอร์ตี้ และ ดี-แลนด์กรุ๊ป เจ้าของแบรนด์บ้านจัดสรรในชื่อโครงการ รินรดา และ เดอะ พราว
นายอิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการ บริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด เปิดเผยว่า ในปีนี้บริษัทลงทุนพัฒนาโครงการในโซนพระราม 2 อีกประมาณ 460 ล้านบาท แบ่งเป็นการพัฒนาโครงการใหม่ “เดอะเฟิร์ส โฮม พระราม 2” มูลค่า 80 ล้านบาท ส่วนโครงการเดิมจะมีการขยายเฟสใหม่ ได้แก่ “โครงการสยามเนเชอรัล โฮม พระราม 2 เฟส 3” มูลค่า 200 ล้านบาท และ “กานดา พาร์ค พระราม 2 เฟส 3” มูลค่า 180 ล้านบาท
ส่วนนายสุเทพ ปัญญาสาคร กรรมการผู้จัดการ บริษัท ดี-แลนด์กรุ๊ป จำกัด (D-Land Group) เปิดเผยว่า บริษัทได้เปิดตัวโครงการ“พอร์โต วิลล่า” (PORTO VILLA) ตั้งอยู่ติดถนนพระราม 2 บนพื้นที่ 50 ไร่ เป็นบ้านเดี่ยว 5 แบบ 5 สไตล์ ขนาด 60-150 ตารางวา พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 140-305 ตารางเมตร จำนวน 105 ยูนิต ราคาตั้งแต่ 7-12 ล้านบาท และ จะมีคอมมูนิตี้มอลล์ บริเวณด้านหน้าโครงการมีพื้นที่ขายรวมกว่า 10,000 ตารางเมตร มูลค่าโครงการ 1,250 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในช่วงไตรมาส 2 และไตรมาส 3 จะเปิดตัวโครงการใหม่ 2 โครงการ บริเวณ ถ.เศรษฐกิจ ตั้งอยู่บนพื้นที่ 39 ไร่ เป็นทาวน์เฮาส์ ขนาด 18-22 ตารางวา จำนวน 400 ยูนิต ราคา 1.2-1.4 ล้านบาท มูลค่า 500 ล้านบาท และย่านบางโทรัด บนพื้นที่ 40 ไร่ เป็นทาวน์เฮาส์ จำนวนเกือบ 500 ยูนิต ซึ่งดี-แลนด์ กรุ๊ปยังมีที่ดินสะสมพร้อมนำมาพัฒนาในย่านพระราม 2 และเอกชัย อีก 4 แปลง มูลค่า 800 ล้านบาท
สุเทพเปิดเผยว่า บริษัทให้ความสนใจที่จะลงทุนโครงการคอนโดมิเนียม ในย่านพระราม 2 ด้วย ขณะนี้มีที่ดินรอการพัฒนาตั้งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองสมุทรสาคร คาดว่าจะพัฒนาเป็นโครงการระดับกลางลงมา หรือเฉลี่ยราคาตารางเมตรละ 40,000 บาท หรือประมาณ 1 ล้านบาท ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการศึกษาแนวโน้มความเป็นไปได้
สำหรับกลุ่มทุนจากกรุงเทพฯ ที่น่าสนใจก็คือ กลุ่มพฤกษาเรียลเอสเตท ซึ่งในปัจจุบันได้เข้ามาลงทุนในชานเมืองมหาชัยถึง 2 โครงการ ได้แก่ บ้านพฤกษา 42 เอกชัย-พระราม 2 เป็นโครงการทาวน์เฮ้าส์ 2 ชั้น จำนวน 429 ยูนิต ราคาประมาณไม่เกิน 1 ล้านบาท และล่าสุดกับโครงการพฤกษาวิลเลจ Scenery มหาชัย-พระราม 2 บนถนนเอกชัย ซึ่งเป็นบ้านเดี่ยวขนาดตั้งแต่ 50-70 ตารางวา ราคาเริ่มต้นที่ 1.51 ถึง 3 ล้านบาท ซึ่งเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้
หากใครได้สังเกตถึงความเจริญทางด้านอสังหาริมทรัพย์ จะเห็นว่าก่อนยุคฟองสบู่แตกในปี 2540 โครงการอสังหาริมทรัพย์จำนวนมากมักจะเปิดตัวโครงการบริเวณพื้นที่โคกขาม-พันท้ายนรสิงห์เป็นหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการสารินซิตี้ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่รายแรกที่เข้าไปบุกเบิกตลาดในทำเลนี้ โดยเปิดตัวในรูปแบบ 4 ชุมชน 9 หมู่บ้าน รวมทั้งมีโครงการก่อตั้งโรงเรียนสวนกุหลาบสมุทรสาครทำให้มีผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์เข้ามาจับจองทำเลและเปิดตัวโครงการมากมาย
กระทั่งวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2540 ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ส่วนใหญ่ในจังหวัดสมุทรสาครต่างก็ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะโครงการสารินซิตี้ที่เจ็บตัวมากที่สุด หลายโครงการบริเวณย่านโคกขาม-พันท้ายนรสิงห์ต่างปิดตัวลง เหลือเพียงที่รกร้าง กระทั่งในปี 2548 ซึ่งเศรษฐกิจไทยเริ่มฟื้นตัว โครงการอสังหาริมทรัพย์หลายแห่งจึงเริ่มฟื้นตัวขึ้นมาไล่ตั้งแต่ย่านพระราม 2 และวัดพันท้ายนรสิงห์ รวมทั้งโครงการสารินซิตี้ที่รีแบรนด์ดิ้งขึ้นมาใหม่ และปรับรูปแบบเป็นโครงการขนาดเล็กเพื่อให้ปิดการขายได้รวดเร็ว
นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบการจัดสรรรายใหญ่ในตลาดส่วนกลางเข้ามายึดทำเลขยายตลาด เช่น ควอลิตี้ เฮ้าส์, ศุภาลัย, พร็อพเพอร์ตี้ เฟอร์เฟค ที่ส่งกรุงเทพบ้านและที่ดินเปิดโครงการ เดอะแกรนด์ พระราม 2, ลลิล พร็อพเพอร์ตี้, ซื่อตรง กรุ๊ป และณุศาศิริ ส่วนผู้ประกอบการรายกลางอย่าง กลุ่มกานดา พร็อพเพอร์ตี้ ที่มีความเชี่ยวชาญการทำตลาดในย่านดังกล่าวยังขยายการลงทุนพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีผู้ประกอบการท้องถิ่นที่พัฒนาโครงการขึ้นมาเพื่อรองรับกำลังซื้อในตลาดระดับกลางถึงล่าง เช่น โครงการอมรชัย 5 และโครงการวิเศษสุขนครอีกด้วย
โครงการบ้านจัดสรรขยายวงไปยังพื้นที่ถนนเอกชัย ขาเข้าเมืองสมุทรสาคร ซึ่งแต่เดิมมีหมู่บ้านเบญจทรัพย์นคร ซึ่งเป็นโครงการบ้านจัดสรรเก่าแก่ และเคหะชุมชนมหาชัย ของการเคหะแห่งชาติ โดยเริ่มจากโครงการเดอะ พราว ของตระกูลปัญญาสาคร ตามมาด้วยโครงการบ้านพฤกษา 42 และล่าสุดกับโครงการพฤกษาวิลเลจ Scenery ซึ่งอยู่ใกล้เคียงกัน ขณะที่ดี-แลนด์เปิดตัวทาวน์เฮ้าส์ในชื่อโครงการบ้านดีซึ่งอยู่ในซอยลัดไปออกวัดศรีบูรณาวาส (วัดโคก)
แม้โดยภาพรวมการที่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เข้ามาเปิดตลาดในจังหวัดสมุทรสาครจะเป็นเรื่องที่ดี เนื่องจากเป็นการขยายความเจริญด้านที่อยู่อาศัยจากกรุงเทพฯ แต่ถึงกระนั้น ความเจริญเติบโตดังกล่าวกำลังจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตของคนสมุทรสาครที่มีพื้นเพอยู่เดิมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อาทิ ปัญหาการจราจรติดขัด ที่พบว่าหลังจากในซอยวัดพันท้ายนรสิงห์มีโครงการบ้านจัดสรรจำนวนมาก การจราจรบนถนนพระราม 2 หนาแน่น โดยเฉพาะจุดกลับรถสะพานข้ามทางรถไฟที่พบว่าติดขัดในชั่วโมงเร่งด่วน
นอกจากนี้ยังมีปัญหาน้ำประปา ขยะมูลฝอย ที่หากการจัดการขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ได้แก่ เทศบาลนครสมุทรสาคร เทศบาลตำบลนาดี อบต.โคกขาม อบต.คอกกระบือ อบต.บางน้ำจืด และ อบต.พันท้ายนรสิงห์ ไม่สามารถจัดการได้เรียบร้อย ก็อาจจะส่งผลให้ปัญหาลุกลามบานปลายเพิ่มมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม ด้วยศักยภาพของการคมนาคมที่ใกล้กรุงเทพฯ รวมทั้งความเจริญจากการเกิดขึ้นของหมู่บ้านและชุมชนขนาดย่อม ทำเลในพื้นที่พระราม 2 ถึงจังหวัดสมุทรสาครจึงกลายเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่ต้องการบ้านใหม่ในราคาไม่แพง และเชื่อว่าด้วยการแข่งขันที่สูง ทำให้ผู้ที่ต้องการมีบ้านเป็นของตัวเองสามารถเป็นเจ้าของได้ไม่ยากนัก ในภาวะเศรษฐกิจที่กำลังรอวันฟื้นตัวนั่นเอง.