หลังจากที่ กสทช. ให้ใบอนุญาตประกอบกิจการคลื่นความถี่ 2100 เมกะเฮิร์ตซ์แก่ผู้ให้บริการมือถือทั้ง 3 ราย ดูเหมือนว่าทั้งเอไอเอส ดีแทค และทรูมูฟ เอช ต่างเร่งพัฒนาเครือข่ายของตัวเอง พร้อมกับการขยายฐานลูกค้าโดยการปรับเปลี่ยนมาใช้เครือข่าย 3จี ของตัวเอง ผ่านอุปกรณ์ที่ผู้ให้บริการเป็นผู้จำหน่าย ด้วยการชูศักยภาพด้านราคาและคุณภาพทัดเทียมกับมือถือตามท้องตลาด

ท่ามกลางสมาร์ทโฟนที่มีจำหน่ายจำนวนมากตามท้องตลาด แต่สำหรับ “ฟีเจอร์โฟน” มือถือที่มีปุ่มกด และลูกเล่นให้ใช้งานง่าย ไม่ยุ่งยาก และไม่ต้องเรียนรู้โดยการเปิดคู่มือ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ถนัดใช้มือถือแบบทัชสกรีน และผู้ที่ต้องการมือถือสำรองสำหรับเน้นคุยมากกว่าเล่นเน็ต มีทั้งผู้เล่นแบรนด์ใหญ่อย่างโนเกียและซัมซุง และจากค่ายมือถือที่ผลิตมือถือเฮ้าส์แบรนด์ออกมา

GO Live 2

ค่ายทรูมูฟ เอช ที่ประกาศว่าเป็นเครือข่าย 3 จีที่ครอบคลุมมากที่สุด ที่ผ่านมาในช่วงที่ยังไม่มีการประมูลใบอนุญาต 3 จี ได้วางจำหน่ายมือถือฟีเจอร์โฟน โกไลฟ์ 3031 รองรับเฉพาะเครือข่าย 850 เมกะเฮิร์ตซ์ วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อเดือนกรกฎาคม 2555 ด้วยราคา 990 บาท และต่อมาได้ออกรุ่น โกไลฟ์ 2 เมื่อเดือนพฤษภาคม 2556 จำหน่ายด้วยราคา 1,290 บาท

สำหรับมือถือรุ่น โกไลฟ์ 2 รองรับ 3 จี HSDPA 7.2 Mbps. ความถี่ 850 และ 2100 เมกะเฮิร์ตซ์ หน้จอ 2.4 นิ้ว กล้องหลังความละเอียด 3 ล้านพิกเซล เครื่องเล่นเอ็มพี 3, เอ็มพี 4 และวิทยุเอฟเอ็ม มีเมนู 4 ภาษา ได้แก่ ไทย อังกฤษ พม่า กัมพูชา และรองรับ WiFi และ WiFi Hotspot อีกด้วย แต่การใช้งานต้องใช้ซิมการ์ดเครือข่ายทรูมูฟ เอชเท่านั้น

ปัจจุบันสำหรับลูกค้าทรูมูฟ แบบเติมเงินเดิม ที่มีสถานะเปิดใช้บริการมาแล้วอย่างน้อย 6 เดือน และเติมเงิน 2 เดือนล่าสุดอย่างน้อย 200 บาทต่อเดือนขึ้นไป จะได้รับเครื่องรุ่นนี้ฟรีโดยจ่ายภาษีมูลค่าเพิ่ม 85 บาท โดยต้องใช้บริการทรูมูฟ เอช ต่อเนื่องอย่งน้อย 6 เดือน ส่วนลูกค้าย้ายค่ายเบอร์เดิมจะได้รับฟรีเฉพาะเปลี่ยนเป็นทรูมูฟ เอช แบบรายเดือนเท่านั้น

ส่วนมือถือรุ่น โกไลฟ์ 3031 ซึ่งวางจำหน่ายผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ทรูช้อป ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น รองรับ 3 จี HSDPA 7.2 Mbps. เฉพาะความถี่ 850 เมกะเฮิร์ตซ์ที่มีอยู่เดิม คุณสมบัติหน้าจอ 2 นิ้ว กล้องหลังความละเอียด 3 แสนพิคเซล มีวิทยุเอฟเอ็ม เป็นโมเด็มเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตผ่านยูเอสบี แบตเตอรี่ 750 mAh ใช้ซิมการ์ดเครือข่ายทรูมูฟ เอชเท่านั้น

Dtac TriNet Phone Mousey

ค่ายดีแทค ได้วางจำหน่ายมือถือไตรเน็ต โฟน รุ่นเมาท์ซี่ โดยใช้หัวเหว่ยผลิตเครื่องและอุปกรณ์ วางจำหน่ายครั้งแรกเมื่อเดือนมิถุนายน 2556 ด้วยราคา 1,290 บาท และระยะหลังได้จำหน่ายมือถือรุ่นนี้ผ่านช่องทางศูนย์บริการดีแทค ร้านขายมือถือทั่วประเทศ และยังมีจำหน่ายในร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่นด้วย

สำหรับมือถือดีแทค ไตรเน็ต โฟน รุ่นเมาท์ซี่ รองรับ 3 จี HSDPA 7.2 Mbps. ความถี่ 850, 1800 และ 2100 เมกะเฮิร์ตซ์ หน้าจอ 2.4 นิ้ว กล้องหลังความละเอียด 1.3 ล้านพิกเซล เครื่องเล่นวีดีโอ เอ็มพี 3 วิทยุเอฟเอ็มที่สามารถฟังได้โดยไม่ต้องเสียบหูฟัง เชื่อมต่อคอมพิวเตอร์เพื่อใช้เป็นโมเด็มผ่านยูเอสบี แบตเตอรี่ 1,000 mAh นอกจากนี้ยังชูจุดขายใช้ได้ทุกระบบโดยไม่ล็อกซิมการ์ด

ลูกค้าดีแทคแบบเติมเงินที่ซื้อมือถือรุ่นนี้ เมื่อเติมเงินเดือนละ 200 บาทขึ้นไปรับโบนัสค่าโทรฟรี 200 บาทเพื่อใช้ โทร SMS MMS เบอร์ดีแทคนาน 10 วัน เป็นเวลา 6 เดือน รวม 1,200 บาท และฟรีอินเตอร์เน็ต 100 เมกะไบต์ ส่วนลูกค้าดีแทคแบบรายเดือน มีแพ็คเกจโทรฟรีทุกเครือข่ายราคาพิเศษ 299, 549 และ 649 บาท พร้อมอินเตอร์เน็ตไม่จำกัด นาน 6 เดือน

ZTE F286 ใน AIS 3G SUPER COMBO

ค่ายเอไอเอส หันมาจับมือกับพาร์ทเนอร์อย่างแซดทีอี ออกฟีเจอร์โฟน ZTE F286 ราคา 1,290 บาท คุณสมบัติหน้าจอ 2.4 นิ้ว กล้อง 0.3 ล้านพิกเซล วิทยุและเครื่องเล่น เอ็มพี 3 แบตเตอรี่ 820 mAh โดยจะจะเริ่มทยอยวางจำหน่ายที่หน้าร้านเอไอเอส เทเลวิซ โมเดิร์นเทรดทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมนี้ และจะมีขายตามร้านมือถือทั่วไปด้วย

สิทธิพิเศษลูกค้าเอไอเอส 3 จี เมื่อซื้อเครื่อง ออกโปรโมชั่นที่เรียกว่า AIS 3G Super Combo โดยลูกค้าเอไอเอส 3 จี รายเดือนที่ใช้แพ็คเกจหลักตั้งแต่ 200 บาทต่อเดือน และเอไอเอส 3 จี วัน-ทู-คอล เมื่อเติมเงิน 100 บาทต่อเดือน จะได้รับโบนัสโทรฟรีเดือนละ 200 บาท นาน 6 เดือน รวมมูลค่า 1,200 บาท

นอกจากนี้ ยังมีฟีเจอร์โฟนรองรับความถี่ 2100 เมกะเฮิร์ตซ์จำหน่ายพร้อมสิทธิพิเศษ อาทิ ซัมซุง ฮีโร่ 3G E3309 ราคา 1,290 บาท และ หัวเหว่ย U2800 ราคา 1,490 บาท ลูกค้าเอไอเอส รับโบนัสโทรฟรี 1,600 บาท และ โนเกีย 301 ราคา 2,630 บาท ลูกค้าเอไอเอส รับโบนัสโทรฟรี 2,400 บาท ผ่านการเติมเงิน 100 บาทต่อเดือน หรือแบบรายเดือนที่มีแพ็กเกจหลัก 200 บาทขึ้นไป

เอ็ม ลิ้งค์ เอเชีย คอร์ปอเรชั่น ผู้แทนจำหน่ายโนเกียอย่างเป็นทางการ ก็มีมือถือที่รองรับความถี่ 2100 มาจำหน่ายโดยโนเกีย C2-01 ราคา 1,890 บาท เฉพาะลูกค้าเอไอเอสรับค่าโทรฟรี 1,800 บาท สำหรับฟีเจอร์โฟนรุ่นอื่นๆ พบว่ามี Asha 300 ที่รองรับความถี่ 2100 นอกนั้นจะรองรับระบบเดิมที่ใช้กันอยู่

แม้ว่าการมองหามือถือฟีเจอร์โฟนที่รองรับความถี่ 2100 เมกะเฮิร์ตซ์มาใช้จะยังมองว่าไกลตัว เพราะเห็นว่ามือถือเดิมยังคงใช้ได้อยู่ แต่ในขณะนี้สัญญาสัมปทานมือถือระบบเดิมทั้ง 3 ค่ายก็ใกล้จะหมดอายุลงอย่างมากที่สุด 5 ปี การจะยอมลงทุนซื้อมือถือที่รองรับความถี่ 2100 เมกะเฮิร์ตซ์เพื่อให้ใช้เครือข่ายใหม่ซึ่งมีอายุสัมปทานถึงปี 2570 ได้นานๆ จึงไม่ใช่เรื่องเสียหายแต่ประการใด

ขณะเดียวกัน ในปีหน้าคาดว่าเราจะได้เห็นมือถือทั้งสมาร์ทโฟน สำหรับลูกค้าระดับบน และฟีเจอร์โฟนสำหรับลูกค้าระดับล่าง ที่รองรับความถี่ 2100 เมกะเฮิร์ตซ์ จากผู้ผลิตรายใหญ่ๆ เข้ามาทำตลาดในบ้านเรามากขึ้นเรื่อยๆ พร้อมกับการเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยีและสงครามราคา ซึ่งคงทำให้เราอาจได้ใช้เทคโนโลยีที่ก้าวล้ำในราคาที่ถูกลงก็ได้.