เมื่อเดือนที่แล้ว บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร พบว่ามีการก่อสร้างอาคารชั้นเดียว ซึ่งต่อมากลายเป็นธนาคารกรุงไทย สาขาศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งจะเปิดให้บริการในวันที่ 21 มิถุนายนที่จะถึงนี้ สร้างความสงสัยแก่คนที่ผ่านไปมาว่า ธนาคารมาตั้งสาขาบริเวณนี้ได้อย่างไร

ทีมข่าว “สาครออนไลน์” ได้ลงพื้นที่สถานที่ก่อสร้าง ธนาคารกรุงไทย สาขาศาลากลางจังหวัดสมุทรสาครเพื่อสอบถามผู้ที่เกี่ยวข้อง พบว่าที่ตั้งเป็นอาคารชั้นเดียว ด้านหน้าเป็นจุดติดตั้งเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ ทั้งเอทีเอ็ม เครื่องฝากเงินสดอัตโนมัติ และเครื่องปรับสมุดเงินฝากอัตโนมัติ

อย่างไรก็ตาม เมื่อเราได้พูดคุยกับผู้จัดการสาขา ต่างก็ไม่ได้รับคำตอบที่ดีนักว่าการมาตั้งสาขาตรงจุดนี้มีความเป็นมาอย่างไร อ้างว่าธนาคารกรุงไทยเป็นส่วนราชการบ้าง อ้างว่าทำเนียบรัฐบาล รัฐสภาก็มีสาขาบ้าง หรือไม่ก็อ้างว่าใช้ตราสัญลักษณ์เดียวกับกระทรวงการคลังบ้าง

เรียกได้ว่าคำตอบที่ได้ก็ออกทะเลไปไกล แทบจะหลุดอ่าวมหาชัยไปยังทะเลจีนใต้

อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวจากผู้ที่เกี่ยวข้องในแวดวงธนาคาร ชี้แจงกับเราว่า ตามปกติสถานที่ราชการ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์ราชการ โรงพยาบาลของรัฐ สถานศึกษาของรัฐ หรือศาสนสถาน เช่น วัด สามารถเปิดสาขาได้หมด หากหน่วยงานเจ้าของที่ดินอนุญาต และเห็นว่าเมื่อเปิดสาขาไปแล้วคุ้มค่า

การเปิดสาขาธนาคารทุกแห่ง จะต้องได้รับอนุญาตจากจากธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องประกอบธุรกิจภายใน 2 ปี ธนาคารพาณิชย์ต้องแจ้งการเปิดสาขาทั่วไป โดยระบุชื่อสาขา รหัสสาขา ที่ตั้งสาขา และกำหนดวันเปิดทำการให้ทราบไม่น้อยกว่า 15 วันก่อนเปิดสาขา

สำหรับการตั้งสาขาธนาคารในสถานที่ราชการนั้น ส่วนใหญ่จะใช้วิธีเช่าที่ดินหรืออาคารราชพัสดุบางส่วน โดยทำสัญญาเช่ากับกรมธนารักษ์ หรือสํานักงานธนารักษ์พื้นที่ ซึ่งธนาคารกรุงไทยเป็นรัฐวิสาหกิจ ผู้ถือหุ้นใหญ่คือกระทรวงการคลัง จึงสามารถเจรจากับทางหน่วยงานราชการง่าย

จากการสำรวจของสาครออนไลน์พบว่า ปัจจุบันมีสาขาของธนาคารกรุงไทย ในศาลากลางจังหวัดและศูนย์ราชการทั่วประเทศแล้ว 44 แห่งใน 41 จังหวัด ซึ่งเมื่อก่อนจะตั้งสาขาเฉพาะจังหวัดใหญ่ๆ เช่น กรุงเทพมหานคร สุพรรณบุรี นครศรีธรรมราช นครราชสีมา ราชบุรี เพชรบูรณ์ มุกดาหาร

นอกจากนี้ ยังพบธนาคารพาณิชย์รายอื่นๆ ตั้งสาขาในศาลากลางจังหวัดอีกด้วย อาทิ ธนาคารกรุงเทพ สาขาศาลากลางจังหวัดพิษณุโลก ลพบุรี ร้อยเอ็ด สงขลา ส่วนธนาคารของรัฐมีธนาคารออมสิน สาขาศูนย์ราชการ จ.ขอนแก่น ไม่นับรวมศูนย์ราชการกรุงเทพมหานครที่มีธนาคารชั้นนำให้บริการ

ขณะที่ธนาคารของรัฐอีกแห่งหนึ่งอย่างธนาคารอาคารสงเคราะห์ ก็เคยลงนามในบันทึกข้อตกลงกับกรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการใช้ประโยชน์บนพื้นที่อาคาร ณ ที่ว่าการอำเภอในแต่ละจังหวัดเพื่อจัดตั้งศูนย์บริการทางการเงินครบวงจร (OSS) อีกด้วย

อย่างไรก็ตาม การเปิดสาขาศาลากลางจังหวัดสมุทรสาครของธนาคารกรุงไทยครั้งนี้ นำมาซึ่งข้อกังขามากมาย เช่น การบดบังทัศนียภาพของศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร นอกจากป้ายโฆษณาประชาสัมพันธ์ที่รกรุงรังตั้งแต่ริมเขื่อนศาลเจ้าพ่อหลักเมืองถึงที่ว่าการอำเภอเมืองสมุทรสาคร

หรือจะเรื่องความจำเป็นในการเปิดสาขา เพราะปัจจุบันธนาคารกรุงไทยมีสาขาในจังหวัดสมุทรสาครรวมกันแล้ว 12 สาขา รองจากธนาคารไทยพาณิชย์ 17 สาขา และกสิกรไทย 15 สาขา อีกทั้งในละแวกใกล้เคียงยังมีสาขาสมุทรสาคร และสาขาตลาดมหาชัยให้บริการอยู่แล้ว

นอกจากนี้ยังเป็นที่โจษจันว่า เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2556 จังหวัดสมุทรสาครเคยรับมอบเงินบริจาคจากธนาคารกรุงไทย จำนวน 2 ล้านบาท เพื่อระดมทุนจัดทำลานคอนกรีตหน้าศาลากลางจังหวัด ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนำไปใช้ประโยชน์ในการทำกิจกรรม

ทำให้สภาพหน้าศาลากลางจังหวัดจากเดิมที่มีสนามหญ้าซึ่งใช้จัดกิจกรรมเป็นประจำ ถูกถมไปด้วยพื้นคอนกรีตทั้งหมดราวกับป่าคอนกรีต แทบจะไม่เหลือความเป็นสนามหญ้าที่มีอยู่เดิม แน่นอนว่าในช่วงที่ยังไม่มีกิจกรรมใดๆ ก็กลายสภาพเป็นลานจอดรถยนต์รองรับคนที่มาติดต่อราชการเสียอย่างนั้น

การตั้งสาขาของธนาคารกรุงไทยโดยใช้พื้นที่ในศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร คงไม่คาดคิดว่าเป็นเรื่องต่างตอบแทน เพราะท้ายที่สุดค่าเช่าที่ดินจะตกอยู่กับสํานักงานธนารักษ์พื้นที่ แต่การบดบังทัศนียภาพก็ยังคงเป็นปัญหาต่อไป เหมือนกับป้ายโฆษณาอิ้งค์เจ็ทที่รกสายตาผู้คน

กลายเป็นจังหวัดที่ไร้ระเบียบแห่งหนึ่งในประเทศไทย ที่แม้แต่หน้าบ้านตัวเองยังทำให้สง่างามไม่ได้ คงไม่ต้องคาดเดาถึงการจราจรในตลาดมหาชัย ที่วุ่นวายพอๆ กับจราจลในชีวิตประจำวัน.