บันทึก “เบญจภาคี” ตรวจถ่านหินทั่วจังหวัด!

ผลจากการที่กลุ่มต่อต้านถ่านหินอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เพื่อคุณภาพชีวิตสมุทรสาคร ชุมนุมปิดถนนพระราม 2 นำไปสู่การออกคำสั่งระงับการดำเนินกิจการถ่านหินทุกกรณี ของนายจุลภัทร แสงจันทร์ ผู้ว่าฯ สมุทรสาคร นำไปสู่การตั้งคณะกรรมการเบญจภาคี ซึ่งประกอบไปด้วยตัวแทน 5 ฝ่าย วันที่ 3 ส.ค.เป็นครั้งแรกที่จะลงพื้นที่สถานประกอบการอย่างจริงจัง

อันที่จริงผู้ประกอบการถ่านหินที่อยู่ในข่ายต้องตรวจสอบมีอยู่ 5 แห่ง ได้แก่ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน), บริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด (มหาชน), บริษัท เทคนิทีม (ไทยแลนด์) จำกัด, บริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์แมเนจเมนต์ จำกัด และ บริษัท มหาชัย เอนเนอจี จำกัด แต่ปรากฏว่าบริษัท เทคนิทีม ซึ่งมีที่ตั้งใน ต.ท่าทราย ยังไม่ให้คณะเบญจภาคีเข้าไป ถึงกระนั้นโทรทัศน์บางช่องก็บุกเข้าไปถ่ายทำ และสัมภาษณ์เจ้าของโรงงานกันถึงในพื้นที่มาแล้ว

ตั้งแต่ช่วงเช้า คณะกรรมการร่วมเบญจภาคีที่ได้รับการแต่งตั้งจากผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร พร้อมด้วยสื่อมวลชนลงพื้นที่ย่านบางกระเจ้า เริ่มจากบริษัท เอสซีจี โลจิสติกส์แมเนจเมนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือซีเมนต์ไทย ตั้งอยู่ที่หมู่ 5 ต.บางกระเจ้า อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร มีนายณัฐวุฒิ สายโอ๊ะ อายุ 38 ปี เจ้าหน้าที่กระจายสินค้าบริษัทให้การต้อนรับ

ณัฐวุฒิชี้แจงว่า โรงงานเปิดกิจการประกอบถ่านหินเมื่อปี 2550 จำหน่ายและกักเก็บถ่านหินประเภทบีทูมินัส ซึ่งเป็นถ่านหินประเภทมีเนื้อแน่นและแข็ง มีทั้งสีน้ำตาลจนถึงสีดำ มีปริมาณออกซิเจนและความชื้นต่ำ แต่มีปริมาณคาร์บอนสูงกว่าซับบิทูมินัส ใช้เป็นเชื้อเพลิงในการถลุงโลหะ และนำมาเป็นวัตถุดิบเพื่อเปลี่ยนเป็นเชื้อเพลิงเคมีอื่นๆ ได้

ทางโรงงานไม่เคยถูกร้องเรียนในเรื่องใดๆ เพราะเราเข้าถึงมวลชนด้วยดีตลอดมา แต่กลับถูกทางจังหวัดสั่งระงับการประกอบการชั่วคราวเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยในโกดังมีถ่านหินกักเก็บเพื่อรอจำหน่าย จำนวน 5 กอง รวมน้ำหนักประมาณ 54000 ตัน ซึ่งทั้งหมดใช้ผ้าคลุมไว้เพื่อรอจำหน่ายภายใน 20 วัน

เป็นที่น่าสังเกตว่า สถานที่เก็บกองถ่านหินของบริษัทฯ อยู่ลึกเข้าไปในป่า ซึ่งดูเหมือนว่าไม่ค่อยมีบ้านเรือนพักอาศัยอยู่ ขณะที่ท้ายแหล่งจัดเก็บติดกับป่าริมคลองสุนัขหอน แต่ก็มีบ่อบำบัดน้ำเสียทำหน้าที่กักตะกอนถ่านหินไม่ให้ลงสู่แหล่งน้ำ รวมทั้งมีการล้อมพื้นที่ด้วยสแลนสีเขียว แต่ถ่านหินที่ปรากฏกลับมีอยู่น้อยมาก

จุดที่สองซึ่งอยู่อีกฝั่งของถนนพระราม 2 คือ บริษัท มหาชัย เอนเนอจี จำกัด ตั้งอยู่ที่หมู่ 3 ต.บางกระเจ้า ซึ่งมีนายพิสิทธิ์ อุดมพงศ์อนันต์ กรรมการผู้จัดการบริษัทให้การต้อนรับ ลักษณะเป็นโรงงานระบบปิด มีประตูทางเข้าและช่องระบายอากาศ ภายในมีลักษณะทึบ มีเครื่องจักรทำหน้าที่บดละเอียด แต่เหลือถ่านหินจำนวนเล็กน้อยเพราะได้ขนย้ายออกไปหมดแล้ว

พิสิทธิ์กล่าวชี้แจงถึงการดำเนินงานในช่วงที่ผ่านมา ว่าที่ผ่านมาแม้การเดินเครื่องจักรบดถ่านหินจะก่อให้เกิดฝุ่นละอองถ่านหินฟุ้งกระจายทั่วบริเวณโรงงาน แต่ก็มีเล็ดลอดออกมานอกโรงงานน้อยมากเพราะเป็นระบบปิด ที่ผ่านมาได้มีการทำความสะอาดโรงงานมาแล้ว อย่างไรก็ตามแนวทางการปฏิบัติต่อไปยืนยันว่าจะไม่เลิกกิจการ เพราะได้ขออนุญาตถูกต้องและจัดเก็บถ่านหินมิดชิด

ช่วงบ่าย คณะเบญจภาคีเดินทางไปยังจุดที่สาม บริษัท ยูนิค ไมนิ่ง เซอร์วิสเซส จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นคลังสินค้าและท่าเรือในพื้นที่หมู่ 5 ต.สวนส้ม อ.บ้านแพ้ว โดยมีนายชัยวัฒน์ เครือชะเอม กรรมการผู้จัดการ พร้อมพนักงานลงมาต้อนรับด้วยตัวเอง โดยได้นำคณะพาขึ้นรถบัสเดินทางไปยังท่าเทียบเรือท้ายกองจัดเก็บถ่านหิน แทบจะเรียกว่าไม่ต้องเดินเท้าเข้าไป

ทั้งนี้ มีกองถ่านหินคงค้างประมาณ 421,000 ตัน ถูกคลุมด้วยผ้าใบสีดำกองใหญ่ราวกับภูเขาขนาดย่อมๆ ซึ่งสื่อมวลชนบางสำนักที่เคยไปทำข่าวเมื่อวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมายืนยันว่าไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก ส่วนด้านในเป็นโรงคัดแยกขนาดถ่านหินด้วยตะแกรงร่อนให้ออกมา 4 ขนาด บางส่วนบรรจุถุงขนาด 700 กก.อยู่จำนวนหนึ่ง ส่วนถ่านหินที่เป็นฝุ่นผงละเอียดได้ทดลองปั้นเม็ดอยู่บางส่วน มีอยู่ประมาณ 2 หมื่นตัน

อย่างไรก็ตาม ภายในโกดังจัดเก็บสินค้า มีสปริงเกอร์ฉีดน้ำเป็นละอองบริเวณหน้าประตูโกดัง เพื่อให้ฝุ่นถ่านหินที่ฟุ้งกระจายตกลงไป และมีคลองบำบัดน้ำเสียกักเก็บตะกอนอยู่ด้านข้าง ส่วนท่าเทียบเรือริมแม่น้ำท่าจีนเป็นจุดท้องคุ้ง ซึ่งมีลมพัดแรงเข้าหาตัวโรงงานที่มีแนวป่ากั้นเป็นแนวอยู่สองข้าง สำหรับโรงงานยูนิคไมนิ่งฯ มีพนักงานประมาณ 400 คน โดยตั้งโรงงานมาเป็นระยะเวลาเกือบ 10 ปี และคนงานส่วนใหญ่เป็นคนในพื้นที่ใกล้เคียงโรงงาน

จุดสุดท้ายช่วงบ่ายแก่ๆ เราเดินทางไปยังคลังสินค้าของ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) ถนนเลียบคลองสี่วาพาสวัสดิ์ หมู่ 2 ต.นาดี อ.เมืองฯ ที่นั่นเราไม่พบความประทับใจหลายอย่าง เพราะมีเพียงพนักงานหนุ่มสาวที่ทำหน้าที่พาเยี่ยมชมสถานที่ แสดงให้เห็นถึงความไม่เอาใจใส่ของผู้บริหารระดับสูง เทียบกับโรงงานก่อนหน้านี้ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เหมือนกัน เจ้าของโรงงานยังให้การดูแลและชี้แจงด้วยตัวเอง

ที่คลังสินค้าของเอเชียกรีนฯ มีอาคารคลังสินค้าจัดเก็บถ่านหิน 2 อาคาร กองเก็บมีลักษณะโล่งเตียนเพราะมีการขนถ่านหินออกไปจนหมด ในโกดังที่สองมีถ่านหินประมาณ 5,000 ตัน อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวยังพบเห็นรถบรรทุกเข้า-ออกโรงงานอยู่ตลอดเวลา ในช่วงเวลาหลังห้าโมงเย็น แต่ทางโรงงานชี้แจงว่าเป็นเพียงรถบรรทุกหินกรวดเพื่อปรับพื้นที่โรงงาน

ถึงกระนั้น ผู้สื่อข่าวยังสังเกตเห็นเจ้าหน้าที่โรงงานคนหนึ่งพยายามเข้าไปเทคแคร์นักการเมืองเจ้าของพื้นที่ ต.นาดี ซึ่งเดินทางมาสังเกตการณ์คณะเบญจภาคีที่เข้ามาเยี่ยมโรงงาน ในทางตรงกันข้ามกลับปล่อยปะละเลยคณะทำงานเบญจภาคี ช่วงหนึ่งขณะที่ผู้สื่อข่าวกำลังพูดคุยกับนักการเมืองเจ้าของพื้นที่ซึ่งรู้จักกัน เจ้าหน้าที่คนนี้กลับแสดงกิริยาที่ไม่สมควรใส่ผู้สื่อข่าว โดยอ้างว่าเรื่องที่พูดคุยไม่ได้เกี่ยวข้อง ทั้งๆ ที่กำลังพูดคุยเรื่องส่วนตัว

นอกจากนี้ ในส่วนของ รปภ.ของโรงงาน ซึ่งครั้งหนึ่งสาครออนไลน์เคยลงพื้นที่สังเกตการณ์ และถูกคอยขัดขวางไม่ให้เข้าไปในพื้นที่ มาคราวนี้แม้จะเดินทางมาพร้อมกับคณะเบญจภาคี แต่ รปภ.กลับพยายามห้ามไม่ให้รถผู้สื่อข่าวเข้าไป พร้อมกับข่มขู่จะยึดบัตรผู้สื่อข่าว แม้จะปล่อยผ่านให้เข้าไปได้ แต่ก็น่าคิดว่าพฤติกรรมของ รปภ.รายนี้ถือเป็นการคุกคามสื่อมวลชนหรือไม่

เป็นความไม่ประทับใจที่ต้องมองย้อนไปถึงนายทุนที่ไม่เห็นหัวประชาชน นำมาซึ่งความเดือดร้อนของคนในพื้นที่ นำไปสู่การกดดันให้ย้ายออกจากพื้นที่ภายใน 18 เดือน แม้ในตอนนี้พ้นระยะเวลาตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย.2554 ไปแล้วก็ยังไม่ย้ายออกไป เนื่องมาจากคลังสินค้าและท่าเรือแห่งใหม่ในพื้นที่ ต.ท่าทราย ต้องเจอโรคเลื่อน แต่ด้วยสายสัมพันธ์กับผู้บริหารท้องถิ่น ถึงขั้นมีเจ้าหน้าที่โรงงานคอยเทคแคร์ก็ถือว่าไม่ธรรมดา.



1 ความคิดเห็น เรื่อง “บันทึก “เบญจภาคี” ตรวจถ่านหินทั่วจังหวัด!”

  1. คนหมู่ 4 ท่าทราย กล่าวว่า:

    ส.ค. 04, 11 at 12:57 am

    ขนาดคนอยู่ครบทุกฝ่าย บ.เอเชีย กรีน ยังกล้าปฏิบัติตนเช่นนี้ ก็ฟันธงไปเลยว่าใช้อำนาจเงินฮั้วกับผู้มีตำแหน่้งในท้องถิ่น ดำเนินกิจการไปแบบไปเห็นหัวชาวบ้านใครจะเป็นไร (เรื่องของมึง) กูดำเนินกิจการได้ พอ


แสดงความคิดเห็น


เงื่อนไขในการแสดงความคิดเห็น
• กรุณาแสดงความคิดเห็นด้วยถ้อยคำที่สุภาพ โปรดงดเว้นการใช้คำหยาบคาย ส่อเสียด ดูหมิ่น กล่าวหาให้ร้าย สร้างความแตกแยก หรือกระทบถึงสถาบันอันเป็นที่เคารพ
• การลบความคิดเห็น ที่ไม่เหมาะสม สามารถกระทำได้ทันที โดยไม่ต้องมีการแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
• ทุกความคิดเห็นไม่เกี่ยวข้องกับผู้ดำเนินการเว็บไซต์ และไม่สามารถนำไปอ้างอิงทางกฎหมายได้

เรื่องก่อนหน้า-ย้อนหลัง